svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ธุรกิจ-การตลาด

"รถเช่าแข่งเดือด"ค่ายรถลงสนามเปิดบริการเพิ่มทางเลือกลูกค้า

ttb analytics คาดปีนี้มูลค่าตลาดรถเช่าเติบโต 10.2% อยู่ที่ 5.1 หมื่นล้านบาท หลังท่องเที่ยวฟื้น ชี้การแข่งขันสูงค่ายรถพาเหรดให้บริการ แนะผู้ประกอบการรุกทำช่องทางออนไลน์-บริการคุณภาพมากขึ้น

รายงานข่าวจากศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ หรือ ttb analytics แจ้งว่า ปี 2566 มูลค่าตลาดรถเช่าของไทยจะอยู่ที่ 5.1 หมื่นล้านบาทหรือขยายตัว 10.2% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยแยกแนวโน้มแหล่งรายได้ของธุรกิจรถเช่า ดังนี้


1.  รถเช่าระยะสั้นคาดว่าจะขยายตัว 33.5% อยู่ที่ 1.13 หมื่นล้านบาท เนื่องจากในปี 2566 คาดว่ารายได้ท่องเที่ยวไทยจะเติบโต 80% จากปีก่อนหน้า อยู่ที่ 2.25 ล้านล้านบาท โดยได้รับอานิสงส์จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจสามารถดำเนินได้ตามปกติ ภาคท่องเที่ยวสามารถกลับมาดำเนินกิจการได้เป็นปกติอีกครั้ง

โดยประเมินว่าจะมีอัตราการเข้าพักโรงแรมโดยเฉลี่ยทั้งประเทศอยู่ที่ประมาณ 60% ทำให้ความต้องการรถเช่าระยะสั้นเพื่อการท่องเที่ยวมากขึ้น โดยมีทั้งลูกค้าที่เป็นนักท่องเที่ยวไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ

2. รถเช่าระยะยาวคาดว่าจะขยายตัว 5.0% อยู่ที่ 4 หมื่นล้านบาท เนื่องจากเศรษฐกิจในประเทศกลับสู่ระดับปกติแล้ว ttb analytics คาดว่าปี 2566 เศรษฐกิจไทยจะขยายตัว 3.6% จากปี 2565 ที่ขยายตัว 2.6% ทำให้การบริโภคเอกชน และการท่องเที่ยวกลับมา ส่งผลทำให้ความต้องการรถเช่าระยะยาวของบริษัทต่าง ๆ ยังคงเติบโตได้อยู่ อย่างไรก็ตาม รายได้จากรถเช่าระยะยาวเริ่มทรงตัว ทำให้ผู้ประกอบการรถเช่ารายใหญ่หันไปเพิ่มสัดส่วนรายได้จากรถเช่าระยะสั้นมากขึ้น

3. แนวโน้มรายได้จากการจำหน่ายรถใช้แล้วเครื่องยนต์สันดาป (ICE) ลดลง เนื่องจากเทรนด์ผู้บริโภคต้องการรถยนต์ไฟฟ้า (xEV) มากขึ้น และส่งผลกระทบทำให้รถยนต์ใช้แล้วเครื่องยนต์สันดาปมีราคาตกลง โดยราคารถยนต์ใช้แล้วประเภทรถยนต์นั่งจะตกลงมากกว่ารถยนต์เชิงพาณิชย์ เนื่องจากรถยนต์ไฟฟ้าในช่วงแรกที่จะเข้ามาในตลาดเพื่อชดเชยรถยนต์นั่งเป็นหลัก ผู้ประกอบการรถเช่าต้องประเมินราคาขายรถเช่าเครื่องยนต์สันดาปที่กำลังเข้าสู่ระยะปลดระวาง เนื่องจากมูลค่าซากจะตกลงมากกว่าในอดีต

สำหรับภาวะการแข่งขันธุรกิจรถเช่าในปัจจุบัน พบว่ามีการแข่งขันสูงเนื่องจากดีมานด์รถเช่าระยะยาวและรถเช่าระยะสั้นค่อนข้างมีอยู่อย่างจำกัด โดยธุรกิจรถเช่าในระยะ 3-5 ปีข้างหน้ามีแนวโน้มเติบโตเฉลี่ย 5-8% ต่อปี ตามการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศและภาคการท่องเที่ยว

นอกจากนี้ ผู้ประกอบการที่เป็นค่ายรถยนต์เริ่มหันมาต่อยอดทำธุรกิจรถเช่าในลักษณะให้เช่าระยะยาว เพื่อเป็นทางเลือกให้กับลูกค้า รวมถึงการเกิดแพลตฟอร์มรถเช่าใหม่ ๆ ที่รายย่อยสามารถนำรถยนต์ของตนเองมาปล่อยเช่าได้ในลักษณะเศรษฐกิจแบบแบ่งปัน (Sharing Economy)

ด้วยเหตุนี้ทำให้แนวโน้มการแข่งขันในธุรกิจเช่าสูงขึ้น ซึ่งเป็นแรงกดดันให้ผู้ประกอบการรถเช่าต้องปรับตัวและกำหนดกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจภายใต้ภาวะการแข่งขันที่สูง ได้แก่ 1. การพัฒนาแอปพลิเคชันเช่ารถแบบ B2C เพื่อสร้าง Ecosystem ในการเข้าถึงลูกค้าในระยะยาว

2. ผู้ประกอบการรถเช่าเข้าร่วมเป็นพันธมิตรเพื่อร่วมกันประสานประโยชน์กับธุรกิจที่เกี่ยวข้อง อาทิ ธุรกิจท่องเที่ยวและโรงแรม แพลตฟอร์มรถเช่าและแพลตฟอร์มจองโรงแรม ฯลฯ เพื่อให้สามารถเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น 3. การนำรถยนต์ไฟฟ้า (xEV) เข้าพอร์ตรถเช่าเพื่อเป็นทางเลือกให้ลูกค้ามากขึ้น เพื่อเตรียมรับมือกับเทรนด์รถเช่าประหยัดพลังงานที่กำลังเกิดขึ้น

สำหรับแนวโน้มธุรกิจรถเช่าของไทยที่คาดว่าจะฟื้นตัวในปี 2566 โดยในระยะ 3-5 ปีข้างหน้า ttb analytics ประเมินว่าการแข่งขันในธุรกิจรถเช่าจะสูงขึ้น ทั้งจากผู้ประกอบการรถเช่ารายเดิมและผู้แข่งขันรายใหม่ทั้งจากค่ายรถยนต์ที่เริ่มต่อยอดทำธุรกิจรถเช่า และผู้ลงทุนรายย่อยที่นำรถมาปล่อยเช่าผ่านแพลตฟอร์มรถเช่ารายย่อย

พร้อมทั้งแนะผู้ประกอบการรถเช่ารุกทำการตลาดรถเช่าออนไลน์ของตนเองร่วมกับการบริการที่มีคุณภาพมากขึ้น เช่น รถเช่าระยะสั้น ก่อนให้บริการรถเช่าควรอยู่ในสภาพใหม่และสะอาด ลูกค้าสามารถเลือกสถานที่รับและส่งรถเช่าได้ ณ จุดนัดหมายที่ลูกค้าสะดวก ฯลฯ

ขณะที่รถเช่าระยะยาว มีการตรวจสอบและบริการการตรวจเช็กสภาพรถยนต์ให้เช่าอย่างสม่ำเสมอ เพื่อสร้างความประทับใจในการบริการให้ลูกค้ากลับมาใช้บริการอีกและบอกต่อแก่ลูกค้าคนอื่น ๆ ซึ่งจะช่วยสร้างความสามารถทางการแข่งขันทำให้ธุรกิจรถเช่าของผู้ประกอบการเติบโตได้ภายใต้สภาวะการแข่งขันที่สูงขึ้นในปัจจุบัน