เบนท์ลีย์แบงค็อกเปิดตัว Flying Spur Hybrid Odyssean Edition อัครยนตรกรรมที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความหรูหราและความยั่งยืนคันแรกและคันเดียวในประเทศไทยอย่างเป็นทางการครั้ง
แรก ภายใต้แนวคิด ‘EXTRAORDINARY MOBILITY
FOR THE NEXT CENTURY’ ทางเบนท์ลีย์ แบงค็อกจะได้เปิดตัว FLYING SPUR เพื่อให้ทุกท่านได้สัมผัสถึงความลงตัวระหว่างความหรูหราและความยั่งยืน 2 ความแตกต่างที่ผสมกลมกลืนก่อให้เกิดการรังสรรค์อัครยนตรกรรมรุ่นลิมิเต็ดรุ่นนี้
สำหรับรุ่น Odyssean Edition รังสรรค์ขึ้นจากแรงบันดาลใจของแนวคิดด้านการออกแบบรถยนต์ต้นแบบรุ่น EXP 100 GT
ที่ได้กำหนดเส้นทางของเบนท์ลีย์มอเตอร์สสู่การเป็นผู้ผลิตอัครยนตรกรรมที่ยั่งยืนที่สุดของโลกภายในปี 2578 โดยการรังสรรค์ Odyssean Edition ถือเป็นก้าวแรกบนเส้นทางของกลยุทธ์ Beyond100 ด้วยการนำวัสดุใหม่ที่ยั่งยืนมาใช้ในการรังสรรค์อัครยนตรกรรมที่หรูหราแต่ยังคงไว้ซึ่งประสิทธิภาพและสมรรถนะในการขับขี่ตามแบบฉบับของแบรนด์รถยนต์เบนท์ลีย์
ความหรูหราและความยั่งยืนได้ถูกถ่ายทอดผ่านผลงานการรังสรรค์ภายในห้องโดยสารของ Flying Spur Hybrid Odyssean Edition ด้วยเฉดสีขาว Linen และ เฉดสีน้ำตาลเข้ม Burnt Oakที่มาพร้อมกับการตกแต่งบริเวณคอนโซลหน้าและรอบห้องโดยสารด้วยวีเนียร์ Koa แบบเปลือยคัดสรรมาเป็นพิเศษด้วยการใช้แล็กเกอร์บางพิเศษ 3 ชั้น หนาเพียง 0.1 มิลลิเมตร
น้อยกว่าวีเนียร์เคลือบเงาถึง 90% ให้ผู้ครอบครองได้เพลิดเพลินไปกับพื้นผิวที่เป็นธรรมชาติและความสวยงามของวีเนียร์
พร้อมด้วยคอนโซลกลางที่ตกแต่งด้วยวีเนียร์แบบ Piano
Linen เรียบหรู สไตล์มินิมอล ประกอบกับการตกแต่งด้วยวัสดุหนัง 3เฉดสีที่จะเพิ่มมิติภายในห้องโดยสารพร้อมกับการใช้วัสดุใหม่ร่วมกับหนังจากธรรมชาติที่ผ่านกรรมวิธีที่ยั่งยืนตลอดทั่วทั้งห้องโดยสารเพื่อการใช้งานในระยะยาวนอกจากนี้ภายในห้องโดยสารยังมีการตกแต่งด้วยผ้าทวีดที่รังสรรค์ขึ้นอย่างสวยงามจากขนสัตว์อังกฤษ 100%ผสมผสานด้วยโทนสีต่างๆเข้ากับเส้นด้ายที่ออกแบบเป็นพิเศษสร้างสัมผัสแห่งความหรูหราแบบธรรมชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์รถยนต์เบนท์ลีย์
สำหรับบรรยากาศภายในห้องโดยสารมีการเน้นความรู้สึกส
บายและอบอุ่นในแบบที่เรียกว่า Autumn โดยผู้ครอบครองสามารถเลือกเฉดสีของหนังได้ถึง 5 แบบ อันได้แก่ เฉดสีดำ Beluga, เฉดสีเทา Porpoise, เฉดสีแดง Cricketball, เฉดสีน้ำเงิน Brunel หรือ เฉดสีสีน้ำตาลเข้ม Burnt Oak ควบคู่ไปกับหนังเฉดสีขาว Linen ที่ให้ความรู้สึกเบาสบายและร่วมสมัย และถือเป็นครั้งแรกในการเล่นหนัง 3 เฉดสีอันเป็นเอกลักษณ์ และยังมีการตกแต่งบริเวณกาบบันไดและเสา D ด้วยป้ายโลโก้ Odyssean EditionFlying Spur Hybrid Odyssean Edition
ยังมีการตกแต่งแบบแรเงา (Ombré) (ออมเบร์)
ที่มาพร้อมกับสไตล์งานปักสุดพิเศษที่จะเห็นสีของเส้นด้ายผ
สมผสานกันอย่างลงตัวบนเบาะโดยสารสำหรับรูปลักษณ์ภายนอก Flying Spur Hybrid Odyssean Edition มาในเฉดสีขาว Old English White (Solid) by Mulliner สไตล์อังกฤษ สุดวินเทจ
พร้อมกับล้ออัลลอยด์ขนาด 21 นิ้ว 10 ก้าน กับเฉดสีบรอนซ์เงิน Pale Brodgar (เพล บรอดการ์) และชุดแต่งช่วงล่างสีบรอนซ์เงินที่ประกอบไปด้วยกันชนหน้าและหลัง กรอบไฟหน้าและกรอบไฟท้ายพร้อมชุดแต่งด้านข้างตัวถัง ให้ความรู้สึกสงบและเยือกเย็น
นอกจากนี้ผู้ครอบครองยังสามารถเลือกสรรเฉดสีภายนอกได้อีก 6
เฉดสีเพื่อให้กลมกลืนกับเฉดสีบรอนซ์เงิน Pale Brodgar
(เพล บรอดการ์) ของล้ออัลลอยด์หรือเลือกจากเฉดสีของเบนท์ลีย์ได้อีกทั้งหมด 60 เฉดสี
ในส่วนของสมรรถนะ Flying Spur Hybrid Odyssean
Edition มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน V6 ขนาด 2.9
ลิตรที่ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า มอบพละกำลังกว่า 544
แรงม้า แรงบิด 750 นิวตันเมตร เพิ่มขึ้น 82 แรงม้าเมื่อเปรียบเทียบกับ Bentayga Hybrid โดย Flying Spur Hybrid สามารถเดินทางได้กว่า 700 กิโลเมตรเมื่อเติมน้ำมันเชื้อเพลิงเต็มถัง และด้วยพละกำลังแรงบิดที่เหนือกว่า และการตอบสนองของคันเร่งที่รวดเร็วทำให้ประสิทธิภาพในการขับขี่ใกล้เคียงกับโมเดลเครื่องยน
ต์รุ่น V8 ซึ่งสามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร ต่อ
ชั่วโมงได้ภายในระยะเวลาเพียง 4.3 วินาทีโดย เคาะราคา Flying Spur HybridOdyssean Edition กับราคา 17,842,600 บาท
ซึ่งถือเป็นอัครยนตรกรรมรุ่นลิมิเต็ดคันแรกและคันเดียวในป
ระเทศไทยที่
ไปชมคันจริงกันที่บูทรถยนต์เบนท์ลีย์ ณ งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่40 (Thailand International Motor Expo 2023) วันนี้ ถึง
วันที่ 11 ธันวาคม 2566 ณ อาคารชาเลนเจอร์
ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี