13 มีนาคม 2568 ราคาทองวันนี้ ตามประกาศจาก "สมาคมค้าทองคำ" เมื่อเวลา 09.05 น. ราคาทองแท่ง ราคาทองรูปพรรณ ราคาทองคำวันนี้ ปรับราคาเพิ่มขึ้น 200 บาท ต่อบาททองคำ โดยค่าเงินบาทอยู่ที่ระดับ 33.77 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
ราคาทองคำแท่ง
ราคาทองรูปพรรณ
เมื่อเวลา 09.39 น. ปรับราคาทองคำขึ้น 50 บาท ต่อบาททองคำ ค่าเงินบาทอยู่ที่ระดับ 33.77 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ราคาขายทองคำ ดังนี้..
ราคาทองคำแท่ง
ราคาทองรูปพรรณ
เมื่อเวลา 10.22 น. ปรับราคาทองคำขึ้น 50 บาท ต่อบาททองคำ ค่าเงินบาทอยู่ที่ระดับ 33.77 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ราคาขายทองคำ ดังนี้
ราคาทองคำแท่ง
ราคาทองรูปพรรณ
เมื่อเวลา 12.32 น. ปรับราคาทองคำลง 50 บาท ต่อบาททองคำ ค่าเงินบาทอยู่ที่ระดับ 33.79 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ราคาขายทองคำ ดังนี้
ราคาทองคำแท่ง
ราคาทองรูปพรรณ
เมื่อเวลา 14.39 น. ปรับราคาทองคำลง 50 บาท ต่อบาททองคำ ค่าเงินบาทอยู่ที่ระดับ 33.79 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ราคาขายทองคำ ดังนี้
ราคาทองคำแท่ง
ราคาทองรูปพรรณ
เมื่อเวลา 15.18 น. ปรับราคาทองคำขึ้น 50 บาท ต่อบาททองคำ ค่าเงินบาทอยู่ที่ระดับ 33.77 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ราคาขายทองคำ ดังนี้
ราคาทองคำแท่ง
ราคาทองรูปพรรณ
เมื่อเวลา 15.35 น. ปรับราคาทองคำขึ้น 50 บาท ต่อบาททองคำ ค่าเงินบาทอยู่ที่ระดับ 33.77 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ราคาขายทองคำ ดังนี้
ราคาทองคำแท่ง
ราคาทองรูปพรรณ
เมื่อเวลา 16.44 น. ปรับราคาทองคำขึ้น 50 บาท ต่อบาททองคำ ค่าเงินบาทอยู่ที่ระดับ 33.76 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ราคาขายทองคำ ดังนี้
ราคาทองคำแท่ง
ราคาทองรูปพรรณ
เมื่อเวลา 17.14 น. ปรับราคาทองคำลง 50 บาท ต่อบาททองคำ ค่าเงินบาทอยู่ที่ระดับ 33.77 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ราคาขายทองคำ ดังนี้
ราคาทองคำแท่ง
ราคาทองรูปพรรณ
ไทม์ไลน์ ปรับราคาทองคำวันนี้
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 2 ในวันพุธ (12 มี.ค.) หลังสหรัฐฯ เปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ชะลอตัวลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ซึ่งทำให้นักลงทุนมีความหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย นอกจากนี้ ความกังวลเกี่ยวกับมาตรการภาษีศุลกากรยังเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 25.90 ดอลลาร์ หรือ 0.89% ปิดที่ 2,946.80 ดอลลาร์/ออนซ์
ดัชนี CPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ปรับตัวขึ้น 2.8% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งชะลอตัวลงจากเดือนม.ค.ที่เพิ่มขึ้น 3.0% และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.9%
ส่วนดัชนี CPI พื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 3.1% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบรายปี ชะลอตัวลงจากเดือนม.ค.ที่เพิ่มขึ้น 3.3% และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.2%
ความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของมาตรการภาษีศุลกากรยังเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้บังคับใช้มาตรการเรียกเก็บภาษีเหล็กและอะลูมิเนียมที่นำเข้าสู่สหรัฐฯ ในอัตรา 25% เมื่อวานนี้ ส่งผลให้แคนาดาและสหภาพยุโรป (EU) ตอบโต้ด้วยการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยการเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.พ.ของสหรัฐฯ ในวันนี้ เพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับแนวโน้มเงินเฟ้อของสหรัฐฯ
ผลสำรวจมุมมองต่อทิศทางราคาทองคำในประเทศรายสัปดาห์ระหว่างวันที่ 10-14 มี.ค.68 จากการสำรวจ GRC Gold Survey โดย ศูนย์วิจัยทองคำ มีรายละเอียดดังนี้..
14 ผู้เชี่ยวชาญในตลาดทองคำที่ได้มีส่วนร่วมตอบแบบสำรวจ ในจำนวนนี้มี 2 ราย หรือเทียบเป็น 14% คาดว่าราคาทองคำในสัปดาห์หน้าจะปรับเพิ่มขึ้น ส่วนจำนวน 5 ราย หรือเทียบเป็น 36% คาดว่าราคาทองคำจะลดลง และ จำนวน 7 ราย หรือเทียบเป็น 50% คาดว่าราคาทองคำจะใกล้เคียงกับสัปดาห์ที่ผ่านมา
สำหรับนักลงทุนทองคำ ได้เข้าร่วมตอบแบบสำรวจ จำนวน 355 ราย ในจำนวนนี้มี 160 ราย หรือเทียบเป็น 45% คาดว่าราคาทองคำในประเทศของสัปดาห์หน้าจะปรับเพิ่มขึ้น ส่วนจำนวน 171 ราย หรือเทียบเป็น 48% คาดว่าราคาทองคำจะลดลง และ จำนวน 24 ราย หรือเทียบเป็น 7% คาดว่าราคาทองคำจะใกล้เคียงกับสัปดาห์ที่ผ่านมา
สถานการณ์ราคาทองคำ
ราคาทองคำแท่งในประเทศ 96.5% ตามประกาศ สมาคมค้าทองคำ ในสัปดาห์ที่ผ่านมาเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 46,350 – 46,700 บาท ต่อบาททองคำ โดยราคาทองคำปิดอยู่ที่ระดับ 46,550 บาท ต่อบาททองคำ เพิ่มขึ้น 150 เมื่อเปรียบเทียบกับราคาปิดของสัปดาห์ก่อนหน้า (สัปดาห์ก่อนหน้าปิดที่ 46,400 บาท) ดูรายงาน GRC ฉบับก่อนหน้า
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
1. การเจรจาหยุดยิงระหว่างรัสเซียและยูเครน โดยการประชุมครั้งนี้อาจเป็นสัญญาณสำคัญต่อแนวโน้มสงคราม หากมีความคืบหน้าอาจช่วยลดแรงกดดันต่อราคาพลังงานและทองคำ แต่หากไม่มีข้อตกลงอาจกระตุ้นให้เกิดแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มเติม
2. การประมูลพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ และ ทิศทางอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond Yield) ซึ่งเป็นตัวชี้นำสำคัญเกี่ยวกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ย หากผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวสูงขึ้น อาจส่งผลให้ต้นทุนทางการเงินของภาคธุรกิจและภาคครัวเรือนเพิ่มขึ้น และอาจกระทบต่อตลาดหุ้นและทองคำ
3. รายงานตัวเลขทางเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภคและดัชนีราคาผู้ผลิตของเดือน กุมภาพันธ์ 2568, ดัชนีความเชื่อมั่นและมุมมองคาดการณ์เงินเฟ้อของผู้บริโภค (เบื้องต้น) สำหรับเดือน มีนาคม 2568 รวมถึงตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
ขอบคุณข้อมูล