ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานเปิดโครงการประชุมสร้างการรับรู้นโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้เกษตรกร” เพื่อยกระดับราคาข้าวเปลือกของเชียงใหม่ให้มีเสถียรภาพ ประเดิมเปิดจุดรับซื้อครั้งแรกวันนี้ที่สหกรณ์การเกษตรสันป่าตอง จำกัด และสหกรณ์การเกษตรในพื้นที่เปิดจุดรับซื้อข้าวเปลือกจากเกษตรกร พร้อมจับมือภาคเอกชนเข้ามารับซื้อข้าวจากสหกรณ์ในราคาไม่ต่ำกว่า 10 บาท/กก.
โดยมีนายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว และผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ และเกษตรกรกว่า 1,200 คน เข้าร่วม ณ ศูนย์รวบรวมและแปรรูปผลิตผลการเกษตร สหกรณ์การเกษตรสันป่าตอง จำกัด อำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่
โดยรมว.เกษตรและสหกรณ์ ได้มอบเงินตามโครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ฤดูกาลผลิตปี 2566/67 ให้กับสหกรณ์ที่เข้าร่วมโครงการ 3 แห่ง ได้แก่ สหกรณ์การเกษตรพร้าว จำกัด สหกรณ์การเกษตรฝาง จำกัด และสหกรณ์นิคมพร้าว จำกัด วงเงิน 12.884 ล้านบาท จำนวนเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ 176 ราย ปริมาณข้าวเปลือกที่เข้าร่วมโครงการชะลอการขายข้าว กว่า 1,088 ตัน
ซึ่งโครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี เป็นการสนับสนุนสินเชื่อผ่านธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร เพื่อให้เกษตรกรและสถาบันเกษตรกรเก็บข้าวเปลือกไว้ในยุ้งฉางของตนเองในฤดูเก็บเกี่ยวเพื่อรอขาย ซึ่งระหว่างรอการขายข้าวเปลือก เกษตรกรที่ร่วมโครงการจะได้รับสินเชื่อเพื่อไว้ใช้จ่ายในครัวเรือนและลงทุนประกอบอาชีพทำการเกษตรอย่างต่อเนื่อง และเมื่อราคาข้าวเปลือกที่เก็บรักษามีราคาสูงขึ้นจนเป็นที่พอใจเกษตรกรก็สามารถมาไถ่ถอนนำข้าวเปลือกออกมาจำหน่ายได้ เพื่อให้ได้รับส่วนต่างของราคาและเกษตรกรจะมีรายได้เพิ่มมากขึ้น
“กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีหน่วยงานในสังกัด 22 หน่วยงาน ทั้งส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ เป็นหน่วยงาน ที่นับว่ามีความสำคัญในการรับผิดชอบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องเกษตรกรกว่า 31 ล้านครอบครัว และผู้ใช้แรงงานในภาคการเกษตร อีก 21 ล้านคน รวมเป็น 52 ล้านคน ที่มีความเกี่ยวข้องกับภาคการเกษตร และเป็นประชากรหลักในการสร้างเศรษฐกิจของประเทศ ดังนั้น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จึงมุ่งดูแลช่วยเหลือและแก้ปัญหาให้กับคนเหล่านี้ได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีและมีรายได้ที่มั่นคง โดยการขับเคลื่อนนโยบายตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพื่อเพิ่มรายได้ให้เกษตรกรมีความกินดีอยู่ดี และสามารถแก้ไขปัญหาความยากจนของเกษตรกรได้อย่างแท้จริง”
นอกจากนี้ รมว.เกษตรฯ ยังได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันดำเนินมาตรการเพื่อเตรียมพร้อมรองรับผลผลิตข้าวนาปรัง ปีการผลิต 2566/67 ซึ่งคาดว่าเกษตรกรจะเริ่มเก็บเกี่ยวตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน 2567 นี้ โดยมอบหมายให้กรมส่งเสริมสหกรณ์ โดยสำนักงานสหกรณ์จังหวัดเชียงใหม่ประสานสหกรณ์การเกษตรในพื้นที่ 7 อำเภอ ที่มีอุปกรณ์ฉาง ลานตาก และโรงสี พร้อมสำหรับเปิดจุดรับซื้อและรวบรวมข้าวเปลือกนาปรังจากเกษตรกร และมอบหมายให้กรมการข้าว ประสานผู้ประกอบการเอกชน จำนวน 6 ราย เข้ามารับซื้อข้าวเปลือกในราคาไม่ต่ำกว่า 10 บาท/กก. (ความชื้นไม่เกิน 25%) เพื่อยกระดับราคาข้าวเปลือกของเชียงใหม่ให้มีเสถียรภาพ และได้มีการ Kick Off ประเดิมเปิดจุดรับซื้อข้าวจากเกษตรกรครั้งแรกวันนี้ที่สหกรณ์การเกษตรสันป่าตอง จำกัด จังหวัดเชียงใหม่
ทั้งนี้ สหกรณ์ที่เข้าร่วมโครงการเปิดจุดรับซื้อและรวบรวมข้าวเปลือกนาปรัง ปีการผลิต 2566/67 จำนวน 9 แห่ง ได้แก่ 1 สหกรณ์การเกษตรสันป่าตอง จำกัด 2 สหกรณ์การเกษตรแม่ริม จำกัด 3 สหกรณ์การเกษตรดอยสะเก็ด จำกัด 4สหกรณ์นิคมแม่แตง จำกัด 5 สหกรณ์การเกษตรหางดง จำกัด 6 สหกรณ์นิคมพร้าว จำกัด 7)สหกรณ์การเกษตรพร้าว จำกัด 8 สหกรณ์การเกษตรฝาง จำกัด 9 สหกรณ์การเกษตรโหล่งขอดสามัคคี จำกัด และยังมี โรงสี ป.รุ่งเรือง ธัญญา จ. สิงห์บุรี ,โรงสี ร่วมทุน รุ่งเรือง (ชัยนาท) ,โรงสี รุ่งเรืองไรท์ (พิจิตร),โรงสีแพร่ รุ่งเรือง (แพร่),โรงสี ศรีวรินทร์ (พะเยา) และ บริษัท สิริอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เชียงราย