ส.อ.ท. ปรับเป้าผลิตรถยนต์ ปี 66 ลง 5% หลังแบงก์เข้มปล่อยซื้อรถยาก - ยอดส่งออกลด
สภาอุตสาหกรรม ปรับเป้าผลิตรถยนต์ ปี 66 ลงอีก 5 หมื่นคัน เหลือ 1.9 ล้านคัน หลังสถาบันการเงินเข้มปล่อยสินเชื่อซื้อรถ เหตุหนี้ครัวเรือนสูง รวมทั้งส่งออกลดติดต่อกันหลายเดือน
นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยปรับเป้าผลิตรถยนต์ปี 2566 จาก 1,950,000 คันเป็น 1,900,000 คัน ลดลง 50,000 คัน และ โดยปรับเป้าเฉพาะผลิตขายในประเทศจาก 950,000 คันเป็น 900,000 คัน เนื่องจากปัจจุบันสถาบันการเงินเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อรถยนต์ มากขึ้น จากหนี้ครัวเรือนที่สูงถึงะ 90.6% ของ GDP
รวมทั้งทิศทางการส่งออกสินค้าอื่นๆ ของประเทศลดลงติดต่อกันหลายเดือน ทำให้หลายอุตสาหกรรมลดกะการทำงานและลดการทำงานล่วงเวลา คนทำงานขาดรายได้ อำนาจซื้อลดลง นอกจากนี้ยังมีประเด็นดอกเบี้ยที่อยู่ในช่วงขาขึ้น รวมทั้งค่าครองชีพสูงขึ้น ประชาชนระวังการใช้จ่าย และหันไปซื้อรถยนต์ไฟฟ้าเพื่อประหยัดน้ำมัน ซึ่ง รถยนต์ไฟฟ้าเป็นรถยนต์นำเข้า ไม่ได้ผลิตในประเทศ จึงลดเป้าการผลิตเพื่อขายในประเทศลงประมาณ 5 % ของเป้าเดิม
สำหรับการผลิตรถยนต์ทั้งหมด ในเดือน มิ.ย. 2566 มีทั้งสิ้น 145,557 คัน เพิ่มขึ้น 1.78% จากช่วงเดียวกันของปี แต่ลดลงจากเดือนพ.ค. 2566 ในอัตรา 3.30% โดยการผลิตในช่วง 6 เดือนแรก (ม.ค.- มิ.ย. 66 )มีจำนวนทั้งสิ้น 921,512 คัน เพิ่มขึ้น 5.91% โดยเผลิตเพื่อส่งออก 84,909 คัน และผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ จำนวน 60,648 คัน
โดยยอดขาย รถยนต์ภายในประเทศของเดือนมิ.ย. 2566 มีจำนวนทั้งสิ้น 64,440 คัน ลดลง 5.16% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และการส่งออก รถยนต์สำเร็จรูป 88,826 คัน เพิ่มขึ้น 20.22% เพราะผลิตรถยนต์นั่งและรถ PPV เพื่อส่งออกเพิ่มขึ้นจึงส่งออกเพิ่มขึ้นในตลาดเอเชีย ออสเตรเลียและโอเชียเนีย ตะวันออกกลาง ยุโรป อเมริกาเหนือ
