ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ ส.อ.ท. เกรียงไกร เธียรนุกุล ระบุ ภาคเอกชนมองว่าหากการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ไม่ได้ตามไทม์ไลน์ในเดือน ส.ค.จะกระทบกับการลงทุนต่างชาติที่จะเข้ามาลงทุนที่ต้องรอความชัดเจนของสถานการณ์การเมือง นักลงทุนไทยอาจชะลอไปก่อนได้ แต่นักลงทุนต่างชาติอาจตัดสินใจย้ายไปลงทุนประเทศอื่น
ทั้งนี้ ยังยืนยันตามมติของคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน หรือ กกร. ว่าอยากให้การจัดตั้งรัฐบาลอยู่ในไทมไลน์ที่กำหนดไว้ เพราะหากล่าช้าออกไปยังจะเกิดความเสียหายกับเศรษฐกิจไทยมากขึ้น ซึ่งหลังจากนี้จะต้องรอดูความชัดเจนต่อไป
ส่วนกรณีหากเกิดการชุมนุมประท้วงอาจทำให้บรรยากาศการเดินทางท่องเที่ยวเสียไปได้ และในช่วงปลายปี เป็นช่วงไฮซีซัน ซึ่งภาคการท่องเที่ยวเป็นตัวเคลื่อนจีดีพีที่สำคัญในปีนี้ทดแทนการส่งออกที่ติดลบ
สำหรับผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือนมิถุนายน 2566 ปรับตัวเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 3 เดือน โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการขยายตัวของอุปสงค์ในประเทศ ทั้งการบริโภคภาคเอกชนและภาคการท่องเที่ยว
อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการยังมีความกังวลต่อปัญหาหนี้ครัวเรือนที่กดดันกำลังซื้อในประเทศ ขณะที่ภาคการส่งออกยังคงชะลอตัว เนื่องจากอุปสงค์ในตลาดโลกที่อ่อนแอรวมถึงปัญหาความขัดแย้งรัสเซีย – ยูเครน ยังกดดันราคาพลังงานโลกและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ และแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ยังเป็นความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจการเงินโลก
สำหรับดัชนีฯ คาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้าปรับตัวลดลง เนื่องจากผู้ประกอบการมีความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองและความชัดเจนในการจัดตั้งรัฐบาล ตลอดจนการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกรวมถึงความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจจีนส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออก รวมถึงวิกฤตภัยแล้งที่เกิดจากปรากฏการณ์เอลนีโญ ส่งผลกระทบภาคเกษตรและภาคอุตสาหกรรม
ทั้งนี้ ส.อ.ท. มีข้อเสนอแนะต่อภาครัฐขอให้พิจารณาปรับลดค่าไฟฟ้างวดเดือนกันยายน - ธันวาคม 2566 ลงมาอยู่ที่ 4.25 บาท/หน่วย เพื่อช่วยลดต้นทุนการผลิตให้กับผู้ประกอบการและบรรเทาผลกระทบจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ปรับเพิ่มเที่ยวบินและการอำนวยความสะดวกในการเดินทางของนักท่องเที่ยว เตรียมมาตรการรับมือสถานการณ์ภัยแล้งที่เกิดขึ้นจากปรากฏการณ์เอลนีโญรวมถึงมีแผนบริหารจัดการน้ำอย่างเพียงพอต่อภาคเกษตรและอุตสาหกรรม และดูแลบรรเทาผลกระทบจากราคาสินค้าและค่าครองชีพที่ยังอยู่ในระดับสูง