นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้ (16 พ.ค. 66) ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี รับทราบรายงานความคืบหน้าการดำเนินงานของคณะกรรมการติดตามการดำเนินการแก้ไขปัญหา บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้ประชุม ครั้งที่ 1/66 เมื่อวันที่ 8 พ.ค. 66 สรุปดังนี้
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง
1. ผลการดำเนินงานที่สำคัญของการบินไทย
1) ผลประกอบการและฐานะทางการเงิน ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2565 มีรายได้ 97,514 ล้านบาท ดีกว่าปี 2564 เพิ่มขึ้น 341% จากการขนส่งผู้โดยสาร สินค้าและไปรษณีย์ กำไรจากการดำเนินการ 11,207 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม งบการเงินรวมยังคงมีผลประกอบการขาดทุนสุทธิ 252 ล้านบาท เนื่องจากผลประกอบการของบริษัท ไทยสมายล์แอร์เวย์ฯ ขาดทุน 4,248 ล้านบาท แต่ดีกว่าประมาณการ ตามแผนฟื้นฟูกิจการฯ
2) ผลประกอบการปัจจุบัน ไตรมาส 1/2566 มีรายได้จากการขนส่งผู้โดยสารจำนวน 32,106 ล้านบาท อัตราบรรทุกผู้โดยสารของสายการบินไทยและไทยสมายล์แอร์เวย์ฯ เฉลี่ย 84% และ 79.7% ตามลำดับ ปริมาณการเดินทางของผู้โดยสารรวม 2.19 ล้านคน และ 1.33 ล้านคน ตามลำดับ เติบโตต่อเนื่องหลังจากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย และนโยบายการเปิดประเทศของไทยและต่างประเทศ ปัจจุบันสถานะเงินสดคงเหลือ ณ วันที่ 2 พ.ค. 2566 จำนวน 45,988 ล้านบาท
3) ความคืบหน้าการดำเนินงานตามแผนปฏิรูปธุรกิจ สามารถลดต้นทุนดำเนินงานและเพิ่มรายได้ 64,400 ล้านบาทต่อปี ดีกว่าเป้าหมายที่กำหนด 58,000 ล้านบาทต่อปี
2. การดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการ
1) การปรับโครงสร้างกลุ่มธุรกิจการบิน การบริหารโครงสร้างกลุ่มธุรกิจการบิน ประกอบด้วยกิจการการบินของ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และ ไทยสมายล์แอร์เวย์ฯ ตามแนวทางที่ระบุในแผนฟื้นฟูกิจการ แต่ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาการขาดทุนของไทยสมายล์แอร์เวย์ฯ ที่มีผลการดำเนินงานขาดทุนสะสมอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ ปี 2556 จำนวน 20,012 ล้านบาท และมีส่วนผู้ถือหุ้นติดลบ 18,166 ล้านบาท ซึ่งมีความเสี่ยงในการขาดสภาพคล่อง หากไม่ได้รับการช่วยเหลือจาก บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ดังนั้น แนวทางการปรับโครงสร้างกลุ่มธุรกิจ ควรดำเนินการ ดังนี้
2) การดำเนินการปรับโครงสร้างทุน แปลงหนี้เป็นทุนและการจัดสรรเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้นของผู้ถือหุ้นเดิม ไม่จัดสรรและเสนอขายให้ผู้ถือหุ้นที่จะทำให้ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) มีหน้าที่ตามกฎหมายระหว่างประเทศ โดยจะดำเนินการ ดังนี้
3) ในส่วนของการปรับปรุงประสิทธิภาพฝูงบิน บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และ ไทยสมายล์แอร์เวย์ฯ มีอากาศยานที่ใช้ทำการบินรวม 64 ลำ ซึ่งบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้ดำเนินการขออนุญาตจัดหาอากาศยานเพิ่มเติมโดยเช่าดำเนินงาน 13 ลำ และมีอากาศยานที่อยู่ระหว่างจัดหาตามแผนการจัดหาอากาศยานปี 2567-2568 อีกจำนวน 9 ลำ
3. นอกจากนี้ยังคงสถานะการบินไทยเป็นสายการบินแห่งชาติ เนื่องจาก บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) มีสัดส่วนผู้ถือหุ้นสัญชาติไทย 83.93% ถือเป็นสัดส่วนการถือหุ้นที่มีความเหมาะสมสำหรับการกำหนดให้เป็นสายการบินแห่งชาติ เพื่อสนับสนุนการดำเนินภารกิจสำคัญต่าง ๆ ที่เป็นผลประโยชน์ของประเทศชาติ รวมถึงให้สามารถกลับเข้าร่วมในคณะกรรมการต่าง ๆ เช่น คณะกรรมการการจัดสรรเวลาเข้า-ออก ของเที่ยวบิน คณะกรรมการของผู้แทนของรัฐบาลเพื่อพิจารณาจัดทำความตกลงว่าด้วยการขนส่งทางอากาศกับรัฐบาลต่างประเทศเป็นประจำ
ส่วนของการติดตามหนี้สินที่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) มีสิทธิเรียกร้องและทุนทรัพย์สูง โดยธนาคารเจ้าหนี้ ได้แก่ ธนาคารออมสิน และ ธนาคารกรุงไทย โดยได้นำเงินฝากในบัญชีกองทุนบำเหน็จพนักงานการบินไทยหักกลบหนี้ตามมูลหนี้ ที่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) มีต่อธนาคาร
นอกจากนี้การบิไทยได้ขอรับการสนับสนุนจากภาครัฐ ได้แก่
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า นายกรัฐมนตรีชื่นชมที่ รัฐบาลสามารถแก้ปัญหา บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้อย่างคืบหน้าในระดับหนึ่ง ซึ่งขอให้เร่งรัดแก้ปัญหาให้เร็วขึ้น เพื่อให้ได้กลับคืนสู่ภาวะปกติให้เร็วที่สุด พร้อมทั้งฝากดูแลเจ้าหน้าที่พนักงานของ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และ ไทยสมายล์แอร์เวย์ฯ ให้ได้รับความเป็นธรรมและสามารถปฏิบัติหน้าที่ด้วยความมั่นใจ