นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) รายงานสถานการณ์นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยในช่วงไตรมาสแรกของปี 2566 โดยมีจำนวนนักท่องเที่ยวสะสมอยู่ที่ 6,465,737 คน สร้างรายได้รวม 256,194 ล้านบาท โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาไทย สูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ มาเลเซีย รัสเซีย จีน เกาหลีใต้ และอินเดีย ตามลำดับ
ทั้งนี้ ททท. วางเป้าหมายดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยในปี 2566 รวม 25-30 ล้านคน สร้างรายได้กว่า 1.5 ล้านล้านบาท พร้อมคาดการณ์ว่า นักท่องเที่ยวจีนจะเดินทางเข้าไทยมากเป็นอันดับ 1 โดยมีจำนวนไม่น้อยกว่า 5 ล้านคน และมีแนวโน้มจะสูงถึง 7-8 ล้านคน ขึ้นอยู่กับปริมาณเที่ยวบินในช่วงตารางบินฤดูหนาว รองลงมาคือ มาเลเซีย 4 ล้านคน อินเดีย 2 ล้านคน ส่วนรัสเซียและเกาหลีใต้ คาดว่ามีไม่น้อยกว่า 1 ล้านคน
นอกจากนี้ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา ซึ่งไทยกลับมาจัดกิจกรรมคึกคักที่สุดในรอบ 4 ปี นับตั้งแต่การแพร่ระบาดของโควิด-19 หลายหน่วยงาน รายงานสถานการณ์การท่องเที่ยว ช่วงเทศกาลสงกรานต์เติบโต โดย Airbnb เผยว่า นักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ต้องการมาท่องเที่ยว ยังประเทศไทยมากขึ้น ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยมียอดค้นหาที่พักเพิ่มขึ้นถึง 310% จากปี 2565
โดยกรุงเทพฯ เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยม ที่นักท่องเที่ยวต่างชาติ ค้นหามากที่สุด รองลงมาได้แก่ พัทยา เชียงใหม่ กระบี่ และภูเก็ต ตามลำดับ นอกจากนี้ สำนักข่าว South China Morning Post (SCMP) รายงานว่า การท่องเที่ยวที่คึกคักในช่วงเทศกาลสงกรานต์ จะเป็นกำลังสำคัญในการฟื้นฟูเศรษฐกิจไทย ซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และ รายได้จากภาคการท่องเที่ยวจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทยให้เติบโตได้ถึง 4% ในปีนี้ ซึ่งถือเป็นอัตราการเติบโตที่เร็วที่สุดในรอบ 5 ปี
“นายกรัฐมนตรี เน้นย้ำความสำคัญ ของภาคการท่องเที่ยว ซึ่งถือเป็นส่วนสำคัญ ต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่า รัฐบาลกำหนดแนวทางกระตุ้น การท่องเที่ยวอย่างเหมาะสม สอดคล้องกับกระแสความนิยมต่อไป พร้อมผลักดันกลุ่มนักท่องเที่ยวให้เดินทางมาท่องเที่ยวไทยมากขึ้น ซึ่งจะช่วยสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ” นายอนุชาฯ กล่าว