นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า คณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ได้พิจารณาราคาเกณฑ์กลางอ้างอิง และ การชดเชยส่วนต่างราคาตามโครงการประกันราย ได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2565/66 งวดที่ 26 สำหรับเกษตรกรที่แจ้งวันคาดว่าจะเก็บเกี่ยวระหว่างวันที่ 1 – 7 เมษายน 2566 ปรากฏว่า
โดยจะจ่ายเงินให้เกษตรกรที่ได้รับสิทธิ์งวดที่ 26 ในวันที่ 12 เมษายน 2566 สำหรับสถานการณ์การซื้อขายข้าวในตลาดช่วงนี้ ผู้แทนสมาคมค้าข้าวไทย ให้ข้อมูลว่า ข้าวเจ้ามีความต้องการ ต่อเนื่องค่อนข้างสูง ส่งผลให้ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก ส่วนข้าวชนิดอื่นๆ มีการซื้อขายกันตามปกติ ทำให้ราคาค่อนข้างขยับขึ้นเล็กน้อย
สำหรับสถานการณ์การส่งออก ผู้แทนกรมการค้าต่างประเทศ ให้ข้อมูลว่า ปริมาณการส่งออกจนถึงวันที่ 5 เมษายน 2566 สามารถส่งออกข้าวได้แล้วกว่า 2.26 ล้านตัน ด้วยสถานการณ์การขนส่งทางเรือ ที่กลับสู่ภาวะปกติ ประกอบกับค่าเงินบาท ที่เริ่มมีเสถียรภาพ รวมถึงประเทศที่เคยสต็อกข้าวไว้ เริ่มนำข้าวออกมาใช้ ทำให้ปริมาณข้าวในสต็อกเริ่มลดลง จึงมีแนวโน้มนำเข้าข้าวเพิ่มขึ้น ส่งผลให้สถานการณ์การส่งออกของไทยเป็นไปได้ด้วยดี ซึ่งการส่งออกในปีนี้คาดว่าอาจจะได้ถึง 8 ล้านตัน
นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยต่อไปว่า ในงวดที่ 1 - 25 ที่ผ่านมา
มีเกษตรกร ได้รับเงินส่วนต่างประกันรายได้แล้วกว่า 2.635 ล้านครัวเรือน วงเงิน 7,865.47 ล้านบาท และ
การช่วยเหลือไร่ละพันบาท เกษตรกรได้รับเงินแล้วกว่า 4.647 ล้านครัวเรือน วงเงิน 54,046.25 ล้านบาท
สำหรับเกษตรกร ที่ได้รับสิทธิ์ แต่ยังไม่ได้รับเงิน ขอให้ ติดต่อ ธ.ก.ส. สาขาใกล้บ้าน เพื่อให้ ธ.ก.ส. ตรวจสอบต่อไป
อย่างไรก็ตาม การค้าข้าวขณะนี้ เริ่มพบปัญหาการปลอมปน ของข้าวพื้นนุ่ม และ ข้าวพื้นแข็ง
จึงขอความร่วมมือเกษตรกร โรงสี ผู้ค้า และหน่วยงานในพื้นที่กำกับดูแลและเพิ่มการตรวจสอบ ระมัดระวังไม่ให้เกิดการปลอมปนข้าว รวมทั้งเพิ่มการติดตามดูแลการซื้อขายข้าวเปลือก ทั้งในเรื่องของการปิดป้ายแสดงราคารับซื้อ
และตรวจสอบความถูกต้องของเครื่องชั่งน้ำหนักและเครื่องวัดความชื้น ซึ่งหากพบเห็นว่าท่าข้าวหรือโรงสีใด
ไม่ปิดป้ายแสดงราคารับซื้อ กดราคารับซื้อ โกงน้ำหนัก หรือมีพฤติกรรมใดๆ ที่เป็นการเอาเปรียบชาวนา สามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน โทร 1569