น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวแจ้งเตือนประชาชนผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรายเก่า ตามโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2560 และปี 2561 จำนวนกว่า 13.1 ล้านรายรีบใช้สิทธิ์สวัสดิการแห่งรัฐเป็นวันสุดท้ายในวันนี้ 31 มีนาคม 2566 ภายในเวลา 22.00 น.โดยได้รับสิทธิ์ดังนี้
1.วงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น สินค้าเพื่อการศึกษา และวัตถุดิบเพื่อเกษตรกรรมจากร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น (ร้านธงฟ้าฯ) และร้านอื่น ๆ ตามที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด จำนวน 200 บาทต่อคนต่อเดือน หรือ 300 บาทต่อคนต่อเดือน
2.วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้มจากร้านค้าตามที่กระทรวงพลังงานกำหนด จำนวน 45 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน
3 วงเงินค่าโดยสารรถองค์การขนส่งมวลขนกรุงเทพ (ขสมก.) ระบบ e-Ticket /รถไฟฟ้า จำนวน 500 บาทต่อคนต่อเดือน
4 วงเงินค่าโดยสารรถ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) จำนวน 500 บาทต่อคนต่อเดือน
5 วงเงินค่าโดยสารรถไฟ จำนวน 500 บาทต่อคนต่อเดือน
6.มาตรการการจ่ายเงินเพิ่มเบี้ยความพิการ 200 บาทต่อเดือน กระทรวงการคลัง โดยกรมบัญชีกลางได้ดำเนินการเบิกจ่ายเงินเพิ่มเบี้ยความพิการให้แก่ผู้พิการที่มีบัตรประจำตัวคนพิการและมีบัตรฯ ประจำเดือนมีนาคม 2566 ผ่านกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money) เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2566
7. มาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้า และมาตรการบรรเทาภาระค่าน้ำประปาประจำเดือนมีนาคม 2566 ผู้มีบัตรฯ ตามโครงการฯ ปี 2560 และปี 2561 ในปัจจุบันจะได้รับการชดเชยค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปาตามเงื่อนไขของมาตรการดังกล่าวผ่าน e-Money ภายในเดือนพฤษภาคม 2566
น.ส.ทิพานัน กล่าวต่อว่า ส่วนกรณี “บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” รายเก่า ที่ยังมีเงินเหลืออยู่ในช่อง e-Money สามารถดำเนินการดังนี้
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า สำหรับผู้ที่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติรายใหม่ ตามโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐปี 2565 ยืนยันตัวตนสำเร็จภายในวันที่ 26 มีนาคม 2566แล้ว จำนวน 12.5 ล้านราย จะสามารถใช้สิทธิ์สวัสดิการแห่งรัฐได้ในวันที่ 1 เมษายน 2566 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ ประชาชนสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารและรายละเอียดโครงการฯ เพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ https://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th หรือ https://welfare.mof.go.th และศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โทร. 02 109 2345 (เวลาทำการ 08.30 – 17.30 น.)