28 ก.พ 66 นี้ จะครบกำหนดการเปิดรับฟังความคิดเห็น ผ่านเว็บไซต์ระบบกลางกฎหมาย กรณี ร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าจ้างขั้นต่ำและขั้นสูง ที่ใช้เป็นฐานในการคำนวณเงินสมทบกองทุนประกันสังคม พ.ศ. ... โดยมีสาระสำคัญ คือ กำหนดค่าจ้างขั้นต่ำและขั้นสูง ที่ใช้เป็นฐานในการคำนวณ เงินสมทบกองทุนประกันสังคมของผู้ประกันตนมาตรา 33 โดยจะปรับฐานค่าจ้างขั้นสูงจาก 15,000 บาท แบบค่อยเป็นค่อยไป สูงสุด 23,000 บาท ในปี 2573 โดยเป็นการทยอยปรับดังนี้
แก้กฎใหม่ให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจ
เดิมที กระทรวงแรงงาน ระบุว่า กฎกระทรวง ฉบับที่ 7 (พ.ศ. 2538) ออกตามความในพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2533 ได้กำหนดค่าจ้างขั้นสูงที่ใช้เป็นฐานในการคำนวณเงินสมทบกองทุนประกันสังคมของผู้ประกันตนมาตรา 33 ไว้ไม่เกิน 15,000 บาท ซึ่งใช้มาตั้งแต่ วันที่ 30 มีนาคม 2538 จนถึงปัจจุบัน จึงเห็นสมควร ปรับปรุงให้เหมาะสมและสอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน และเป็นไปตามมาตรฐานเพดานค่าจ้างขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ
อีกทั้งการเก็บเงินสมทบเพิ่มขึ้น จะสามารถจัดสรรสิทธิประโยชน์ ที่เป็นเงินทดแทนการขาดรายได้ อาทิ ปี 2567 ผู้ประกันตนที่ค่าจ้างมากกว่า 17,500 บาท จะส่งเงินสมทบเดือนละ 875 บาท จากเดิม 750 บาท และ จะได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มขึ้น เงินทดแทนขาดรายได้ กรณีว่างงานเพิ่มเป็นเดือนละ 8,750 บาท จากเดิม 7,500 บาท
รวมทั้งยังเพิ่มรายได้ให้กับกองทุนรองรับรายจ่าย ค่ารักษาพยาบาลได้สูงขึ้นตามไปด้วย และ ยังเป็นการกระจายรายได้จากผู้มีรายได้มากไปสู่ผู้มีรายได้น้อยภายในระบบประกันสังคม และเพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นต่อระบบประกันสังคม
สำหรับสิทธิประโยชน์ของผู้ประกันตนมาตรา33 ที่จะได้รับ ปัจจุบันมีกำหนดไว้ดังนี้