"จิราพร" ย้ำได้นั่งรัฐมนตรีเพราะนายกฯปัดถูกแต่งตั้งตามโควตา

1 พฤษภาคม 2567 "น.ส.จิราพร สินธุไพร" รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาล โดยระบุว่า วันนี้ (1พ.ค.) มาคุยงานเรื่องการเตรียมลงพื้นที่ของ "นายเศรษฐา ทวีสิน" นายกฯ ช่วงระหว่างวันที่ 5-6 พ.ค. 67 ที่ จ.มหาสารคาม และ จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งจะเป็นการรับฟังปัญหาประชาชนในพื้นที่และเป็นภารกิจที่นายกฯ ทำต่อเนื่องมาตลอด

ทั้งนี้ โดยนายกฯ พูดตลอดว่าไม่อยากรับรายงานจากข้าราชการ หรือคนรอบตัว แต่อยากดูด้วยตาตัวเอง ถือเป็นจุดแข็งของนายกฯ ที่เปิดใจรับฟังความเห็นของประชาชน ตามปัญหาของประชาชนมาสู่การแก้ไข

ขณะเดียวกัน ยังไม่ได้พูดคุยเรื่องแบ่งงาน เพราะยังไม่ได้เข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณ จึงต้องพูดคุยกันอีกครั้งเนื่องจากมีรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ถึง 3 คน ซึ่งจะต้องแบ่งงานให้เหมาะสมให้ขับเคลื่อนงานได้

ส่วนจะมากำกับดูแลสื่อมวลชนหรือไม่นั้น ยังไม่แน่ชัดว่าจะได้ทำงานด้านใด แต่จริงๆก็พร้อม อีกทั้ง ยังได้ถามกลับสื่อว่า "พี่ๆสื่ออยากให้ทำงานร่วมกันไหมคะ" และย้ำว่า นายกฯ ยังไม่ได้พูดคุยเรื่องการแบ่งงาน ส่วน "นายพิชิต ชื่นบาน" รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ เด่นในเรื่องกฎหมาย ก็คงจะมากำกับดูแลด้านกฎหมายให้รัฐบาล

ส่วนจะถนัดงานด้านไหนนั้น จริง ๆ ทำได้ทุกหน้าที่ ทุกด้าน เพราะเมื่อได้รับการโปรดเกล้าฯ ก็มีการศึกษารายละเอียดของทุกหน่วยงานไว้แล้ว 

สำหรับการได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักฯ เพราะนายกฯ เป็นหลัก เนื่องจากเป็นผู้มีอำนาจในการคัดเลือกผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี เข้าใจว่าทำงานมา 7-8 เดือน นายกฯ มองเห็นอุปสรรคและโอกาสหลายๆ อย่างในการขับเคลื่อนนโยบาย ก็เป็นเอกสิทธิ์ของนายกฯ ที่จะเลือก

"ดิฉันเองเป็น สส. สมัยที่ 2 น่าจะเป็นรัฐมนตรีที่อายุน้อยที่สุดใน ครม.นี้ (36 ปี) เข้าใจว่าท่านก็อยากได้พลังของคนรุ่นใหม่ มาเป็นส่วนในการขับเคลื่อน แต่จริงๆ ท่านนายกฯ ให้ความสำคัญกับทุกช่วงวัย ทั้งรุ่นที่มีประสบการณ์ และคนรุ่นใหม่ที่จะมาทำงานผสมผสานกัน" น.ส.จิราพร กล่าว 

ส่วนการรับตำแหน่งครั้งนี้ถือเป็นโควตาของภาคอีสานหรือไม่นั้นเรื่องนี้ต้องถามนายกฯ แต่คิดว่าพิจารณาตามความเหมาะสม มากกว่าเป็นเรื่องของโควตา

ส่วนที่หลายคนมองว่ามาแทน "นายไชยา พรหมา" อดีต รมช.เกษตรและสหกรณ์ ซึ่งเป็นโควตาอีสานเหนือ ขณะที่ "นายเกรียง กัลป์ตินันท์" รมช.มหาดไทย เป็นโควตาอีสานใต้นั้น ก็เป็นสิทธิเสรีภาพที่จะมอง เพราะมี สส. กระจายอยู่ทุกภูมิภาค ดังนั้น การแต่งตั้งน่าจะพิจารณาจากความเหมาะสมในการขับเคลื่อนงานแต่ละบริบท

เมื่อถามว่า ในฐานะเป็น สส.อีสาน นายไชยาได้ฝากอะไรหรือไม่ น.ส.จิราพร กล่าวว่า ตั้งแต่มีการโปรดเกล้าฯ ลงมายังไม่ได้มีการหารือกัน แต่ก่อนหน้านี้มีการพูดคุยสื่อสารกันแล้วในระดับภาคและจังหวัด ให้การทำงานไม่ว่าจะในบทบาทใด สส. หรือฝ่ายบริหาร ยึดเอาประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก และผลักดันนโยบาย

ขณะที่ สส.อีสาน ก็ได้ฝากการทำงานในภาพรวม ว่าได้มาอยู่ฝ่ายบริหาร จะต้องทำงานตอบสนองประชาชน และผลักดันนโยบายต่างๆ ให้สำเร็จ ถ้านโยบายสำเร็จจะส่งผลต่อการทำงานของ สส. ในพื้นที่

เมื่อถามว่า รู้สึกประหม่าหรือไม่ที่มาเป็นรัฐมนตรี น.ส.จิราพร ยอมรับว่า ตื่นเต้น แต่ไม่ได้ตระหนก เพราะเตรียมพร้อมในทุกหน้าที่ ตั้งแต่เป็น สส. สมัยแรก ทุกคนก็อาจมีบทบาทที่เปลี่ยนแปลงไป แล้วแต่โอกาสที่ประชาชนมอบให้