การไปรษณีย์สหรัฐฯ หรือ USPS ประกาศเมื่อวันพุธ (5 กุมภาพันธ์) ยกเลิกคำสั่งเมื่อวันอังคารที่จะงดรับพัสดุที่มาจากจีนและฮ่องกงชั่วคราวจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง และยืนยันว่า USPS และหน่วยงานศุลกากรและคุ้มครองชายแดน (CBP) จะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเพื่อบังคับใช้กลไกการจัดเก็บภาษีนำเข้าอัตราใหม่กับสินค้าจีน เพื่อให้ส่งผลกระทบน้อยที่สุดต่อการจัดส่งสินค้า
การกลับลำล่าสุดยิ่งเพิ่มความสับสนแก่ผู้ค้าปลีกและบริษัทจัดส่งสินค้าเกี่ยวกับคำสั่งของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่เริ่มบังคับใช้มาตรการเก็บภาษีศุลกากรเพิ่มขึ้นอีก 10% สำหรับสินค้านำเข้าจากจีนทั้งหมดเมื่อวันอังคาร (4 กุมภาพันธ์) และยกเลิกการละเว้นภาษีสำหรับพัสดุที่บรรจุสินค้าราคาไม่ถึง 800 ดอลลาร์ ที่นำเข้าสู่สหรัฐฯ โดยทรัมป์กล่าวหาว่า ข้อยกเว้นนี้เป็นช่องโหวที่ธุรกิจอี-คอมเมิร์ซของจีน อย่าง ชีอิน และเทมู ใช้ในการส่งสินค้าเข้าสู่สหรัฐฯ
ผู้จัดส่งสินค้ารายใหญ่ประกาศว่าจะจัดส่งสินค้าตามปกติ แต่ยอมรับว่าอาจเกิดการหยุดชะงักได้ระหว่างที่ USPS หารือ CBP เรื่องการเก็บภาษีกับพัสดุชิ้นเล็ก ๆ และผู้เกี่ยวข้องกับอี-คอมเมิร์ซ และซัพพลายเชน บอกว่า อาจต้องใช้เวลาสักระยะกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ หลังทุกฝ่ายตื่นตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นโดยไม่ทันเตรียมตัวตั้งรับ
ข้อมูลจาก CBP ระบุว่า ในปี 2567 สินค้าเกือบ 1,360 ล้านชิ้นที่เข้าสู่สหรัฐฯ ล้วนใช้วิธีจัดส่งดังกล่าวที่ไม่ต้องเสียภาษี เพิ่มขึ้นถึง 36% จากปี 2566
และสื่อรายงานด้วยว่า แก๊งค้ายาเสพติดก็ใช้ข้อยกเว้นดังกล่าวในการนำเข้าสารเสพติดเฟนทานิลและสารตั้งต้นอื่น ๆ เข้าสู่สหรัฐฯ โดยไม่ต้องเสียภาษีและไม่ถูกตรวจสอบ