เมื่อวันที่ 8 ก.พ.2568 ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก พนักงานสอบสวน สน.หัวหมาก ยื่นคำร้องต่อศาลอาญา ขอฝากขังครั้งแรก นายยี วานโยว (Mr.YE Wanyou) อายุ 28 ปี และนายลี่ เว่ยเจีย (Mr.Lee Weijie) อายุ 29 ปี สัญชาติจีน ผู้ต้องหาที่ 1-2 สองคู่หูนรก เจ้าของคอลเซ็นเตอร์ประเทศเพื่อนบ้าน ผู้ต้องหาในคดีจัดหาบัญชีม้า ตามหมายจับศาลอาญาที่ จ.785/2568 ลงวันที่ 5 ก.พ. 2568 หลังสามารถจับกุมตัวได้ภายในหมู่บ้านหรูใจกลางกรุงเมื่อวันที่ 6 ก.พ. ที่ผ่านมา
กล่าวหาว่า กระทำความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น, ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงและนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะความเสียหายแก่ผู้อื่น, เป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวใดๆ เพื่อมีการซื้อขายให้เช่าหรือให้ยืมบัญชี เงินฝากหรือบัญชีอิเล็กทรอนิกส์เพื่อในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด และเป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวใดๆ เพื่อมีการซื้อขายให้เช่าหรือให้ยืมหมายเลขโทรศัพท์มือถือที่ซึ่งลงทะเบียน ผู้ใช้ในนามของบุคคลหนึ่งแต่ไม่สามารถระบุตัวผู้ใช้บริการได้ อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 342(1), 343 วรรคสอง, พรบว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์พ.ศ 2550 มาตรา 14(1) วรรคหนึ่ง, พ.ร.ก.มาตรการป้องการและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ.2566 มราตรา 10, 11
ผู้ต้องหาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตามหมายจับศาลอาญา พร้อมตรวจยึดของกลางทรัพย์สินหลายรายการ รวมมูลค่า 18,910,040 บาท
ชั้นสอบสวนผู้ต้องหาทั้งสองให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
ศาลพิจารณาคำร้องเเล้วอนุญาตให้ ฝากขังเป็นเวลา 12 วัน ตามคำร้องของพนักงานสอบสวน เนื่องจากต้องสอบพยาน และ รวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม
ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนขอคัดค้านการให้ประกันตัวด้วย เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูงและการกระทำความผิดของผู้ต้องหามีลักษณะเป็นขบวนการ (แก๊งคอลเซ็นเตอร์) และน่าเชื่อว่าจะเป็นการกระทำความผิดในลักษณะองค์กรข้ามชาติ
ผู้ต้องหาทั้งสองได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว พร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสด คนละ 300,000 บาท
ศาลพิจารณาแล้วมีคำสั่งยกคำร้องผู้ต้องหาทั้งสอง โดยศาลพิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดีแล้ว มีลักษณะเป็นขบวนการ ของกลางจำนวนมาก เป็นภัยต่อสังคม ยากแก่การติดตามตัวมาลงโทษ และพนักงานสอบสวนคัดค้าน การประกันตัว เนื่องจาก เป็นอาชญากรข้ามชาติ โดยตั้งองค์กรในประเทศไทยเพื่อเป็นฐานปฏิบัติการ หากปล่อยชั่วคราวอาจจะหลบหนี ยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน เสียหายต่อการพิจารณาคดี
ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 ศาลมีคำสั่งให้ยกคำร้องเช่นกัน โดยศาลพิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดีมีลักษณะเป็นขบวนการ ของกลางจำนวนมาก
เป็นภัยต่อสังคม ยากแก่การติดตามตัวผู้ร่วมกระทำผิดมาลงโทษ อีกทั้งพนักงานสอบสวนคัดค้านเกรงจะหลบหนีเป็นอาชญากรข้ามชาติ โดยตั้งองค์กรในประเทศไทยเพื่อเป็นฐานปฏิบัติการ หากปล่อยชั่วคราวอาจจะหลบหนี ยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน เสียหายต่อการพิจารณาคดี