พล.ต.จารึก เปิดเผยว่า สหพันธ์ซีเกมส์ได้หารือ เรื่องเจ้าภาพกีฬาซีเกมส์ครั้งต่อไปในครั้งที่ 30 อีก 2 ปีข้างหน้า ซึ่งฟิลิปปินส์ที่ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าอาจถอนตัว แต่ปรากฏว่า ฟิลิปปินส์ ไม่มีมีหนังสือขอถอนตัวใดๆ ดังนั้น ฟิลิปปินส์ยังคงเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันในครั้งหน้า ค.ศ.2019 ซึ่ง โจเซ่ โค ฮวง โก้ ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกประเทศฟิลิปปินส์ ยืนยันหนักแน่นต่อที่ประชุมว่า ฟิลิปปินส์พร้อมจัดซีเกมส์ 2019 โดยจะใช้เกาะรูซอล ซึ่งเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดและมีความสำคัญทางเศรษฐกิจและการเมืองมากที่สุดของประเทศฟิลิปปินส์เป็นสถานที่จัดการแข่งขัน ส่วนชนิดกีฬานั้นยังไม่ได้มีการยืนยันต่อที่ประชุม แต่ฟิลิปปินส์ประกาศว่า ดีใจที่จะได้กลับมาเป็นเจ้าภาพอีกครั้งหลังจากครั้งสุดท้ายที่จัดคือ ครั้งที่ 23 ค.ศ.2005 หรือเมื่อ 12 ปีที่แล้ว และจะจัดแข่งขันให้ดีที่สุด พร้อมกับรักษาวัฒนธรรมและความเป็นปึกแผ่นของชาวอาเซียนเอาไว้
พล.ต.จารึก กล่าวต่อว่า สำหรับกรณีที่ไทยเตรียมเสนอตัวหากฟิลิปปินส์ขอถอนตัวนั้น เราแค่ต้องการแสดงออกถึงการเป็นชาติที่ร่วมก่อตั้งกีฬาซีเกมส์มาตั้งแต่แรกเริ่ม หากมีชาติใดไม่พร้อมจัด เราคงต้องขอรับไปหารือกับรัฐบาลไทยก่อนว่าจะจัดหรือไม่ แต่ในเมื่อฟิลิปปินส์จัดตามวงรอบเดิมที่กำหนดไว้ไทยก็ไม่ได้เคลื่อนไหวใดๆ
ศ.เจริญ กล่าวเสริมว่า ตัวแทนของกัมพูชา ยังได้ยืนยันต่อที่ประชุมว่า กัมพูชาพร้อมเป็นเจ้าภาพในครั้งที่ 32 ซึ่งขณะนี้เริ่มมีการก่อสร้างสนาม และระบบสาธารณูปโภคต่างๆ เพื่อเตรียมเป็นเจ้าภาพแล้ว นอกจากนี้ที่ประชุมยังรับไปดำเนินการตามที่ไทยเสนอ 2 เรื่องคือ 1.ปรับเปลี่ยนโปรแกรมเตะนัดสุดท้ายของฟุตบอลหญิงให้เตะในเวลาเดียวกันเพื่อไม่ให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบเพราะเป็นการเตะแบบพบกันหมดเพื่อตัดสินหาแชมป์ และ2.เรื่องการถ่ายทอดสดกีฬาวอลเลย์บอลหญิง ซึ่งสหพันธ์รับไปดำเนินการตามกระแสเรียกร้องจากหลายฝ่ายให้มีการถ่ายทอดสด
ทั้งนี้ ซีเกมส์วางเจ้าภาพไว้แล้ว 5 ครั้งหลังจากนี้ประกอบด้วย ครั้งที่ 30 จัดที่ฟิลิปปินส์ ปี 2019 , ครั้งที่ 31 จัดที่เวียดนาม ปี 2021, ครั้งที่ 32 จัดที่กัมพูชา ปี 2023, ครั้งที่ 33 จัดที่ไทย ปี 2025 และครั้งที่ 34 จัดที่ลาว ปี 2027