svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

หมอโกงหมอ หลอกทำทัวร์ ตุ๋น 64 ล้าน ยกทีม ร้องกองปราบ ฟันแพทย์ รพ.ดัง

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 16 เมษายน ที่กองบังคับการปราบปราม(บก.ป.) เรืออากาศโทหญิง แพทย์หญิง นิจชา รุทธพิชัยรักษ์ อายุ 30 ปี แพทย์รพ.รัฐบาลชื่อดังแห่งหนึ่ง พร้อมกลุ่มผู้เสียหายรวมกว่า 10 คน ประกอบด้วยหลากหลายอาชีพ อาทิ แพทย์ วิศวกร สจ๊วต อาจารย์มหาวิทยาลัย และเจ้าหน้าที่ทหาร รวมตัวเข้าแจ้งความกับตำรวจกองปราบปราม ในข้อหาฉ้อโกง หลังถูกว่าที่นาวาตรีแพทย์หญิงประจำโรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่ง หลอกลวงให้ร่วมลงทุนในบริษัททัวร์ชื่อ วี สยาม เอเจนซี่ จำกัด มีผู้เสียหายกว่า 38 คน รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 64 ล้านบาท

ข่าวที่เกี่ยวข้องจ่อหมายเรียก "ว่าที่นาวาตรีพญ."คดีหมอโกงหมอ ร่วมลงทุนบริษัททัวร์สูญ 64 ล้าน


เรืออากาศโทหญิง แพทย์หญิง นิจชา กล่าวว่า ว่าที่นาวาตรีแพทย์หญิงคนดังกล่าว ซึ่งเป็นเพื่อนสมัยเรียนมัธยมของตนได้ชักชวนให้ร่วมลงทุนบริษัททัวร์และจองโรงแรมบริษัทของนายโจ้ ซึ่งเป็นแฟนหนุ่มของว่าที่นาวาตรีแพทย์หญิงคนดังกล่าว โดยอ้างว่าจะได้รับผลตอบแทนสูงร้อยละ 6 ถึง 18 ต่อเดือน ทำให้เพื่อนหลากหลายอาชีพ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแพทย์ถึงร้อยละ 50 ร่วมลงทุนด้วย ในอัตราที่แตกต่างกัน โดยมีการลงทุนตั้งแต่ต่ำสุด 80,000 บาท จนถึง 12 ล้านบาท ซึ่งสาเหตุที่คนร่วมลงทุนด้วย เนื่องจากว่าที่นาวาตรีแพทย์หญิงคนดังกล่าวมีอาชีพเป็นแพทย์รพ.ดัง ทำให้มีความน่าเชื่อถือ อย่างไรก็ตามการลงทุนธุรกิจ ไม่เหมือนกับแชร์ลูกโซ่เนื่องจากไม่ต้องชักชวนสมาชิกเพิ่ม และไม่ได้รับผลตอบแทนในการชักชวนสมาชิกเพิ่มแต่อย่างใด อีกทั้งยังได้ผลตอบแทนสูง

เรืออากาศโทหญิง แพทย์หญิง นิจชา กล่าวต่อว่า สำหรับตนนั้นถูกชักชวนให้ลงทุนตั้งแต่เดือนกรกฎาคม แต่ตัดสินใจลงทุนจริงเมื่อเดือนสิงหาคมเป็นเงิน 500,000 บาท โดยโอนเข้าบัญชีว่าที่นาวาตรีแพทย์หญิงคนดังกล่าว ก่อนที่เดือนต่อมาจะได้ปันผล แต่ตนไม่ได้ถอนเงินออกมา แต่กลับเพิ่มยอดเงินร่วมลงทุนเพิ่มไป ซึ่งตั้งแต่เดือนสิงหาคม จนถึงกุมภาพันธ์ ได้เงินคืนทุกเดือน รวมแล้วกว่า 300,000 บาท แต่ยังมีเงินที่ตนลงทุนค้างอยู่อีก 1 ล้านบาท กระทั่งเดือนมีนาคม ตนไม่ได้รับปันผล จึงพยายามทวงถามว่าที่นาวาตรีแพทย์หญิง แต่ได้รับการบ่ายเบี่ยงอ้างว่าบัญชีถูกอายัด และไม่สามารถติดต่อได้ จึงโทรศัพท์ติดต่อก็ไม่ติด พร้อมไปตรวจสอบที่บ้านและที่ทำงานไม่เจอตัวพบว่าลาพักร้อน จึงเชื่อว่าถูกหลอก ตัดสินใจรวมตัวกันเข้าแจ้งความในที่สุด

ด้านตำรวจกองปราบปราม ได้สอบถามข้อมูลเบื้องต้นก่อนแนะนำให้ผู้เสียหายไปแจ้งความที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ. )

มีรายงานว่าผู้เสียหายส่วนใหญ่ไม่อนุญาตให้บันทึกภาพเนื่องจากมีอาชีพที่น่าเชื่อถือในสังคมไม่ต้องการเปิดเผยตัว