รวมสถิติ "กระบะ" เกิดอุบัติเหตุช่วงสงกรานต์

รถกระบะแค๊ป โตโยต้า ตกร่องกลางถนน หลังคาและข้างซ้ายยุบพังเสียหาย ริมถนนฝั่งขาขึ้นมีรอยล้อรถเบรคเหยียบหญ้าเป็นทางยาวกว่า 50 เมตร รถคันนี้บรรทุกผู้โดยสารทั้งเด็กและผู้ใหญ่มา 11 ราย นั่งหน้ารถและแคป 5 ราย นั่งกระบะหลัง 6 ราย ตามที่มีการผ่อนปรน ทั้งหมดกำลังเดินทางกลับจากการทำบุญและท่องเที่ยวในวันหยุดช่วงสงกรานต์ แต่เมื่อถึงจุดเกิดเหตุ บริเวณถนนสาย 24 ระหว่าง กม. ที่61-62บ้านโนนเพชร ต.ท่าเยี่ยม อ.โชคชัย จ.นครราชสี คนขับเกิดหลับใน ควบคุมรถไม่อยู่ส่ายไปมา ส่งผลให้รถพลิกคว่ำลงข้างทาง เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 9 ราย และเสียชีวิต 1 ราย ซึ่งผู้ที่เสียชีวิตนั่งอยู่หลังกระบะ กระเด็นออกมาจากตัวรถ ศรีษะฟาดพื้นเสียชีวิตในที่เกิดเหตุทันที

อีกหนึ่งราย เกิดที่จังหวัดพิษณุโลก เมื่อพ่อขับรถกระบะไปรับลูกสาววัย 14 ปี พร้อมเพื่อนของลูกอีก 1 คน กลับจากเล่นน้ำสงกรานต์ ระหว่างทางฝนตกถนนลื่น รถเสียหลักชนกระบะอีกคัน รถหมุนเคว้งฟาดกับแท่งปูนแบริเออร์ ศรีษะของน้องวัย 14 ไปกระแทกกับท้อยกระบะอย่างรุนแรงจนเสียชีวิต ส่วนอีกคนได้รับบาดเจ็บ

ส่วนที่จังหวัดเลย ชายวัย 39 ปี ยืนอยู่ท้ายกระบะ เพื่อกลับบ้านที่แก่งครก ต.โป่ง อ.ด่านซ้าย เมื่อถึงจุดเกิดเหตุที่เป็นทางขึ้นเขา คนขับเปลี่ยนเกียร์ทำให้รถกระชาก ชายคนนี้จึงตกลงมาจากรถกระแทกพื้นจนเสียชีวิต
ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรีได้ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ออกคำสั่ง เกี่ยวกับการบังคับใช้กฎหมายจราจรของรถยนต์ส่วนบุคคลและรถสาธารณะ รวมถึงการออกมาตรการเข้ม ห้ามนั่งท้ายกระบะ และห้ามนั่งแค็บรถกระบะ 2 ประตู โดยให้มีผลบังคับใช้ เมื่อวันที่ 5 เมษายน แต่ใช้ได้เพียงวันเดียวเท่านั้น ก็ถูกกระแสตีกลับจากประชาชน โอดคราญ ตัดพ้อ ต่อว่า ว่ารัฐบาลไม่เข้าใจสภาพสังคม และไม่สอดคล้องกับวิถีชีวิตคนไทย

จนสุดท้ายรัฐบาลยอมถอย ผ่อนปรนให้นั่งท้ายกระบะได้ไม่เกิน 6 คน และจะมีการทบทวนมาตรการนี้อีกครั้ง หลังเทศกาลสงกรานต์ จากนี้ต้องจับตาดูว่ารัฐบาลจะหาทางออกในเรื่องนี้อย่างไร เพื่อลดความสูญเสียในขณะเดียวกันต้องไม่กระทบการดำเนินชีวิตของประชาชน