นายแพง สุพรหมอินทร์ อายุ50ปี เลขที่17หมู่5บ้านหนองดอกบัว ต.น้ำสวย อ.เมือง จ.เลย กล่าวว่า ในช่วงหน้าฝนตนใช้ที่ดินจำนวน7ไร่ ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เมื่อเก็บเกี่ยวแล้ว ก็ทำการไถกลบซังและ ใบข้าวโพดเป็นปุ๋ยหมักในแปลงจากนั้นต่อระบบน้ำขึ้นมาจากห้วยน้ำลายแหล่งน้ำสาธารณะ ใกล้กับหมู่บ้าน สูบขึ้นมาด้วยระบบท่อพีวีซี. ลงมือปลูกกะหล่ำปลี หน้าหนาว โดยลงมือปลูกเดือน ธ.ค. และสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตป้อนตลาดในเดือน ก.พ. โดยปลูกมาแล้ว5ปีด้วยกันเฉลี่ยปีละ60ตัน ขายได้200,000บาท/ปี หักค่าใช้จ่าย50,000บาท จึงเหลือเป็นกำไร150,000 บาท/ปี ในห้วง3เดือนที่ปลูกถึงเก็บเกี่ยว ใช้แรงงานจากเพื่อนบ้านและญาติมาช่วยค่าแรงเก็บตัดกะหล่ำปลี200บาท/วัน. ด้านราคาขายส่งที่8บาท/กก. ราคาอย่างนี้ถือว่าดีพอใจไม่สูงไม่ต่ำ เกษตรกรอยู่ได้คุ้มต้นทุน ส่วนปุ๋ยหมักจากการไถกลบวัชพืชในแปลงแล้ว ก็ใช้ปุ๋ยยูเรีย สูตร16-20-0 และยาปราบศัตรูพืชนั้นใช้ นอร์ดิ้นกำจัดหนอน ,ใช้เชื้อราก็ใช้ยาเพียวกำจัด ด้านตลาดเมื่อตนเก็บแล้วบรรทุกรถยนต์ไปส่งที่พ่อค้า จ.อุดรธานี . เป็นตลาดใหญ่ ปลูกเพียงพอต่อตลาด โดยเฉพาะปีนี้ความหนาวเย็นน้อยมาก หนาวระยะสั้นและไม่หนาวจัดด้วย ส่งผลต่อการโตของกะหล่ำปลี เพราะกะหล่ำปลีต้องการสภาพอากาศ พื้นที่และน้ำที่เหมาะสม ไม่ร้อนเกินไป จ. เลย มีความได้เปรียบจังหวัดอื่นในภาคอีสาน โดยเฉพาะ ที่ ต.น้ำสวย อ.เมืองเลย ที่มีความเหมาะสมมากเมื่อเก็บเกี่ยวผลผลิตรายปีหรือพืชไร่ พืชสวน แล้ว ในช่วงหน้าหนาวที่ปลายฝนต้นหนาวยังมีความชุ่มชื้นของอากาศ มีน้ำ มีอากาศเย็น-หนาว ก็ยังสามารถปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อยเป็นพืชผักระยะสั้นได้ดีอีกด้วย