นายทศพร ทังสุบุตร อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยถึงกรณีที่ทางการญี่ปุ่นได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยชาวไทยที่เป็นข้าราชการระดับรองอธิบดีของกระทรวงพาณิชย์ โดยระบุว่า เมื่อวันที่ 25 ม.ค.ที่ผ่านมา กระทรวงฯ ได้รับรายงานจากกระทรวงการต่างประเทศว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจญี่ปุ่นได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย เป็นชายไทยและเป็นผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงพาณิชย์จริงตามที่ปรากฏเป็นข่าว หลังจากได้ขโมยภาพวาดในโรงแรมที่พัก กระทรวงฯ จึงได้สั่งการให้สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (สคต.) ณ นครโอซากาประสานงานร่วมกับสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศญี่ปุ่นและสถานกงสุลไทยในโอซากาในการให้ความช่วยเหลือ และจะประสานกับทางการญี่ปุ่นขอเข้าพบข้าราชการคนดังกล่าวในวันที่ 26 ม.ค.นี้ แต่ยังไม่ได้รับคำตอบว่าจะให้เข้าพบได้หรือไม่
อย่างไรก็ดี สำหรับขั้นตอนทางกฎหมายของญี่ปุ่นพบว่ามีรายละเอียดการตรวจสอบที่ใช้ระยะเวลาพอสมควร เช่น เมื่อเจ้าหน้าที่จับกุมตัวผู้ต้องสงสัยแล้วจะทำสำนวนคดีและส่งตัวผู้ต้องสงสัยให้อัยการภายใน 48 ชั่วโมง จากนั้นอัยการจะทำเรื่องก่อนส่งฟ้องศาลภายใน 24 ชั่วโมง และอัยการดำเนินการส่งฟ้องศาลภายใน 20 วัน เป็นต้น ในส่วนของขั้นตอนของกฎระเบียบข้าราชการขณะนี้จะต้องรอให้ข้าราชการคนดังกล่าว เดินทางกลับมาประเทศไทยเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมดพร้อมทั้งจัดตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง ซึ่งตามระเบียบของข้าราชการหากมีการกระทำผิดจริงจะดำเนินการเอาผิดทางวินัย เช่น ภาคทัณฑ์ ลดเงินเดือน และปลดออกจากข้าราชการซึ่งส่วนนี้ต้องพิจารณาตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น
"ขณะนี้เรื่องนี้อยู่ในขั้นตอนของกฎหมายญี่ปุ่นและไม่รู้ว่าจะต้องใช้เวลาดำเนินนานเท่าไร แต่ตามกฎระเบียบข้าราชการ เวลาข้าราชการไปประชุมต่างประเทศจะไม่มีเอกสิทธิ์คุ้มครองเหมือนข้าราชการที่ไปประจำในต่างประเทศ แต่หากการพิจารณาตามกฎหมายของญี่ปุ่นแล้วเสร็จและข้อมูลชัดเจนว่าข้าราชการคนดังกล่าวเข้าข่ายกระทำความผิดจริงก็จะต้องรับโทษตามระเบียบข้าราชการ โดยเรื่องนี้ได้รายงานให้ผู้บริหารกระทรวงฯ ทราบแล้ว ซึ่งผู้บริหารกระทรวงฯ รู้สึกวิตกกังวลมาก และกำชับให้หาข้อเท็จจริงให้ได้โดยเร็ว อย่างไรก็ตามจนถึงขณะนี้ในฐานะผู้บริหารโดยตรงยังไม่สามารถติดต่อกับข้าราชการคนดังกล่าวได้ จึงไม่รู้ว่า ทำผิดจริงหรือไม่ ทำไปเพราะเหตุใด และขโมยภาพวาดอะไร"
นายทศพลยังกล่าวอีกว่า การเดินทางไปญี่ปุ่นของข้าราชการคนดังกล่าว มี 2 ภารกิจ คือ 1.เดินทางเพื่อเข้าร่วมประชุมงานด้านทรัพย์สินทางปัญญาของภาครัฐ และ 2.มหาวิทยาลัยของญี่ปุ่นเชิญไปร่วมประชุมเรื่องการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาของภาครัฐ ระหว่างวันที่ 20-25 ม.ค.2560 โดยมีกำหนดเดินทางกลับไทยวันที่ 25 ม.ค. ที่ผ่านมาแต่ได้เลื่อนการเดินทางกลับอย่างไม่มีกำหนด ทั้งนี้ส่วนตัวเมื่อได้รับข่าวรู้สึกตกใจ และไม่อยากเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง เพราะข้าราชการคนดังกล่าวเป็นบุคลากรที่มีความรู้ ความสามารถมากของกรมฯ และของกระทรวงพาณิชย์ เป็นนักเรียนทุนรัฐบาลญี่ปุ่น เป็นคนทำงานจริงจัง และไม่เคยมีประวัติด่างพร้อย
ด้านนางสาววิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กรณีนี้คงต้องรอทางการญี่ปุ่นสอบสวนข้อเท็จจริงก่อน หลังจากนั้นจะมอบหมายให้กรมทรัพย์สินทางปัญญาในฐานะหน่วยงานที่รับผิดชอบตรงสอบสวนข้อเท็จจริงอีกครั้งเพื่อดำเนินการตามระเบียบวินัยของข้าราชการกระทรวง โดยต้องให้ความเป็นธรรมกับข้าราชการคนดังกล่าวเพราะขณะนี้ยังไม่ทราบถึงเหตุผลที่แท้จริง ส่วนในประเด็นที่กลัวว่าจะทำให้เสื่อมเสียภาพลักษณ์ของกระทรวงพาณิชย์หรือไม่ มองว่าไม่น่าจะเกี่ยวข้องกัน เพราะเหตุการณ์นี้เป็นเรื่องส่วนบุคคล และเป็นเวลานอกราชการ อีกทั้งข้าราชการคนดังกล่าวก็เป็นผู้มีความรู้ความสามารถ ประวัติการทำงานดีมาโดยตลอด
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า ได้รับประสานจากกระทรวงการต่างประเทศถึงข้อมูลความคืบหน้าของกรณีดังกล่าว โดยขณะนี้ข้าราชการคนดังกล่าวได้มีการยอมรับผิดกับทางการญี่ปุ่นแล้ว ซึ่งตามกระบวนการน่าจะจ่ายค่าปรับให้กับทางโรงแรมเจ้าของภาพวาดที่ขโมยมาและเดินทางกลับประเทศไทยได้ในเร็วๆ นี้
สำหรับประวัติของข้าราชการคนดังกล่าว ซึ่งตามข่าวระบุชื่อว่า นายสุภัฒสงวนดีกุล ตำแหน่งรองอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญานั้น เกิดเมื่อวันที่ 22 ม.ค.2500 สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี-โท ด้านเศรษฐศาสตร์การค้าระหว่างประเทศ จากมหาวิทยาลัยนาโกย่า เริ่มรับราชการที่กรมการค้าต่างประเทศ ในปี 2527 จากนั้น เป็นเลขานุการโท สำนักงานที่ปรึกษาการพาณิชย์ กรุงออตตาวา,เลขานุการเอก (ฝ่ายการพาณิชย์) สำนักงานที่ปรึกษาการพาณิชย์ กรุงออตตาวา,เลขานุการเอก(ฝ่ายการพาณิชย์) สำนักงานที่ปรึกษาการพาณิชย์ กรุงโตเกียว,ที่ปรึกษา(ฝ่ายการพาณิชย์) สำนักงานพาณิชย์ในต่างประเทศ กรุงจาการ์ตา