นายพาที สารสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินนกแอร์ เปิดเผยถึงความคืบหน้าของการแก้ไขปัญหาภายในองค์กรที่ส่งผลให้มีการยกเลิกเที่ยวบินอย่างต่อเนื่องตั้งแต่วันที่14ก.พ.ที่ผ่านมา โดยระบุว่า ปัจจุบันนกแอร์ยังอยู่ในช่วงการปรับระบบบริหารจัดการภายใน และจะส่งผลให้ตั้งแต่บัดนี้ (23ก.พ.2559) จนถึงวันที่29ก.พ.นี้ นกแอร์จะยังคงใช้สายการบินพันธมิตรเข้ามาทำการบินทดแทนในเที่ยวบินที่ต้องยกเลิกไป รวมแล้วประมาณ20เที่ยวบินต่อวันรวมไปกลับ โดยมั่นใจว่าปัญหาดังกล่าวจะคลี่คลาย และทำให้ตารางบินเข้าสู่สภาวะปกติได้ตั้งแต่วันที่1มี.ค.เป็นต้นไป เนื่องจากขณะนี้นกแอร์มีแผนรับนักบินเข้ามาเสริมอีกประมาณ20 30คน
สำหรับประเด็นกระแสข่าวที่นกแอร์อยู่ระหว่างเผชิญปัญหานักบินทยอยลาออกจนส่งผลกระทบต่อตารางการบินนั้น ขอยืนยันว่าปัจจุบันนักบินของสายการบินนกแอร์ยังไม่มีใครลาออก อีกทั้งการยกเลิกเที่ยวบินของนกแอร์ และการใช้สายการบินอื่นเข้ามาทำการร่วมบินนั้น ไม่ได้เกิดจากปัญหาจำนวนนักบินไม่เพียงพอ แต่เป็นผลกระทบต่อเนื่องจากวันที่ 14 ก.พ.ที่ผ่านมา จากการพิจารณาเรื่องชั่วโมงบินของนักบิน ทำให้ผลกระทบของการนำนักบินเข้ามาทำการบินทดแทนในบางเส้นทางจึงกระทบต่อชั่วโมงการบินของนักบินเหล่านี้ และเป็นเหตุให้ต้องจัดตารางบินกันใหม่ รวมไปถึงปรับการบริหารจัดการด้วย
ปัญหาเช่นนี้จะมีไปถึงสิ้นเดือน ก.พ.นี้ เท่านั้นเป็นปัญหาเรื่องชั่วโมงบินของนักบินที่รวนมาตั้งแต่วันที่14 ก.พ.ที่ผ่านมาไม่ใช่ปัญหานักบินไม่เพียงพอ เพราะปัจจุบันเรามีนักบินทั้งหมด192คน โดยตั้งแต่เดือนมี.ค. นี้เป็นต้นไปก็จะมีการรับเพิ่มเข้ามาอีก20 30คนซึ่งจะเพียงพอกับจำนวนเครื่องบิน และตารางบิน ส่วนประเด็นการยกเลิกเที่ยวบินนกแอร์ได้ปฏิบัติตามระเบียบที่สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) มาโดยตลอด และจะกลับเข้าสู่สถานการณ์ปกติในไม่ช้า ส่วนการยกเลิกเที่ยวบินจากดอนเมือง ตรัง,ตรัง - ดอนเมือง จาก6เที่ยวบิน เหลือ4เที่ยวบินเป็นการปรับลดชั่วคราวเท่านั้น
แหล่งข่าวจากท่าอากาศยานดอนเมือง เปิดเผยว่า สำหรับกรณีสายการบินนกแอร์ที่แจ้งยกเลิกเที่ยวบินวันที่23ก.พ.ที่ผ่านมาจำนวน20เที่ยวบินนั้น มีการปรับแผนจัดใช้เครื่องบินจากสายการบินไทยเวียดเจ็ทแอร์ เข้ามาให้บริการทดแทนจำนวน8เที่ยวบิน1เส้นทาง (ดอนเมือง-อุบลราชธานี) ส่วนเที่ยวบินที่มีการแจ้งยกเลิกทางสายการบินได้ใช้วิธีดูแลผู้โดยสารแบบต่างๆ เช่น คืนค่าตั๋ว และจัดหาเที่ยวบินอื่นให้ เป็นต้น
นายอาคมเติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 23 ก.พ. ที่ผ่านมาโดยระบุว่า กระทรวงคมนาคมได้รายงานความคืบหน้าการแก้ไขปัญหากรณีสายการบินนกแอร์ยกเลิกเที่ยวบินเมื่อ วันที่ 14 ก.พ.จำนวน 9 เที่ยวบิน ให้ ครม. รับทราบ ว่าขณะนี้ได้ทำการตักเตือนสายการบินนกแอร์เป็นครั้งที่ 1 เนื่องจากเข้ามาแก้ไขปัญหาล่าช้า และให้สายการบินทำคำชี้แจงการแก้ปัญหาเฉพาะหน้ากลับมา โดยปัจจุบัน กพท.อยู่ระหว่างพิจารณารายละเอียดคำชี้แจงที่จัดส่งมากว่าครบถ้วนหรือไม่อย่างไร
ขณะเดียวกัน ที่ผ่านมายังได้มอบหมายให้ กพท.จัดส่งเจ้าหน้าที่ จำนวน 15 คน เข้าไปตรวจสอบการดำเนินงานของสายการนกแอร์ ทั้งในส่วนของข้อมูลเที่ยวบิน จำนวนนักบิน จำนวนชั่วโมงบิน และจำนวนเครื่องบินว่าเหมาะสม และสอดคล้องกับการให้บริการหรือไม่ รวมทั้งยังเข้าไปตรวจสอบระบบการบริหารงานภายในให้เป็นไปตามหลักสากลด้วย โดยเฉพาะระบบการบริหารการบิน และมาตรฐานความปลอดภัยด้านการบิน ซึ่งคาดการณ์ว่า กทพ.จะนำเสนอผลการตรวจสอบมายังกระทรวงฯ พิจารณาเร็วๆ นี้
หากมีการตรวจพบว่านักบินนกแอร์บินเกินชั่วโมงบินจะมีโทษทั้งอาญา และปกครอง ทั้งในส่วนของนักบิน และสายการบิน ส่วนปัญหาการขาดแคลนนักบินนั้นเมื่อวันเสาร์ที่ 20 ก.พ. ที่ผ่านมา นกแอร์ได้แจ้งขอเพิ่มเที่ยวบินแบบเช่าเหมาลำ (ชารเตอร์ไฟล์ต) ต่อไปอีกจนถึงสิ้นเดือน ก.พ. นี้จากเดิมที่ขอใช้วันที่ 22 ก.พ.เป็นวันสุดท้ายเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้บริการ รวมทั้งขอปรับลดเที่ยวบินบางเที่ยวบินลงด้วย ซึ่งแนวทางแก้ไขปัญหาเรื่องขาดแคลนนักบิน กระทรวงฯ ได้สั่งการให้สถาบันการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (สบพ.)กลับไปจัดทำแผนพัฒนา และผลิตบุคลากรทางด้านการบินให้เพียงพอกับความต้องการ โดยแบ่งออกเป็น 3 ส่วนคือ นักบินช่างซ่อมเครื่องบิน และพนักงานให้บริการบนเครื่องบินหรือลูกเรือ คาดว่าภายในเดือน มี.ค.จะสามารถสรุปข้อมูลมายังกระทรวงฯ ได้
นายอาคม ยังกล่าวต่อว่า จากกรณีศึกษาของนกแอร์ เพื่อให้สายการบินมีแผนรับมือ และป้องกันผลกระทบที่จะเกิดกับผู้โดยสาร กระทรวงฯ ได้สั่งการให้14สายการบิน กลับไปจัดทำแผนสำคัญ 3 แผน คือ1.แผนเผชิญเหตุฉุกเฉินกรณียกเลิกเที่ยวบินจากทุกกรณี 2.แผนการการบริหารความเสี่ยงขององค์กร ที่เกี่ยวข้องกับระบบปฏิบัติการ ระบบบุคคลากร รวมทั้งระบบการเงินและ 3. แผนจัดการความเสี่ยงระบบคอมพิวเตอร์หรือระบบไอที โดยทุกสายการบินจะต้องมีการจัดการระบบคอมพิวเตอร์ให้มีความเสถียรเพื่อป้องกันให้เกิดปัญหาระบบคอมพิวเตอร์ล่มจนส่งผลกระทบต่อระบบจองตั๋ว และระบบเช็คอินซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้โดยสาร
นายจุฬา สุขมานพ อธิบดีกรมท่าอากาศยาน และผู้อำนวยการ กพท. กล่าวถึงความคืบหน้าในการการตรวจสอบชั่วโมงบินสายการบินนกแอร์ โดยระบุว่า คาดว่าภายในวันที่27ก.พ.นี้ จะได้ข้อสรุปถึงประเด็นการทำงานของนักบินสายการบินนกแอร์มีชั่วโมงบินเกินหรือไม่ ขณะที่กรณีการยกเลิกเที่ยวบินเพิ่มเติมของสายการบินนกแอร์ ในฐานะ กพท.ยังไม่ทราบข้อมูล ทั้งยังไม่มีการรับแจ้งยกเลิกเที่ยวบินเพิ่มเติมจากทางสายการบิน โดยตามขั้นตอนปฏิบัติแล้ว กทพ. ต้องรอให้ทางสายการบินเป็นผู้แจ้งข้อมูลตารางบิน ซึ่งหากสายการบินมีการแจ้งล่วงหน้าให้ผู้โดยสารทราบน้อยกว่า3วัน และไม่สามารถจัดหาเที่ยวบินให้ผู้โดยสารได้ สายการบินจะต้องจ่ายเงินชดเชยแก่ผู้โดยสารคนละ 1,200 บาท แต่หากแจ้งล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 3 วันตามกฎหมายสายการบินก็ไม่ต้องจ่ายชดเชยผู้โดยสาร