นายสมชาย แสวงการ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ให้สัมภาษณ์ "คมชัดลึก" ต่อประเด็นสถานการณ์การเมืองระหว่างศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเตรียมพิพากษาคดีโครงการรับจำนำข้าว ที่มี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ เป็นจำเลย ว่า
ตนมีข้อมูลต่อการเคลื่อนไหวระดมมวลชนในพื้นที่ต่างจังหวัดภาคเหนือ, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และจังหวัดในเขตปริมณฑล ผ่านทางอดีตส.ส., แกนนำกลุ่มการเมืองในพื้นที่, นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.), และ สมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (สจ.) ให้นำประชาชนเดินทางเข้ามายังกรุงเทพฯ จำนวน 2 รอบ คือ รอบวันที่ 1 สิงหาคม ซึ่งศาลฎีกาฯ นัดการแถลงปิดคดีของน.ส.ยิ่งลักษณ์ และรอบวันพิพากษาคดี วันที่ 25 สิงหาคม โดยในรอบสองนั้นมีข่าวระบุว่าจะระดมประชาชนให้เข้ากรุงเทพเพื่อชุมนุมบริเวณหน้าศาลในจำนวนหลักหมื่นคน
นอกจากนั้นยังพบการปลุกระดมผ่านสื่อออนไลน์ของแกนนำกลุ่มการเมืองเพื่อโจมตีกระบวนการยุติธรรมและโจมตีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติรัฐบาล ก่อนที่ศาลจะมีคำพิพากษา ซึ่งประเด็นที่เกิดขึ้นตนไม่เห็นด้วยและอยากเรียกร้องให้อดีตส.ส.ที่เกี่ยวข้องยุติการกระทำ และให้ศาลฎีกาฯ ดำเนินกระบวนการตามขั้นตอน ทั้งนี้ในคดีของน.ส.ยิ่งลักษณ์นั้นไม่ว่าผลคำพิพากษาจะออกมาเป็นอย่างไร ยังมีสิทธิอุทธรณ์คดีต่อที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาได้ตามที่รัฐธรรมนูญระบุไว้
นายสมชาย กล่าวด้วยว่าตนทราบว่าขณะนี้หน่วยข่าวความมั่นคงมีข้อมูลต่อกรณีการระดมมวลชนมายังกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคมที่ผ่านมา ว่าเข้าข่ายการเกณฑ์ประชาชนให้ไปชุมนุม มีค่าตอบแทนเป็นเงินคนละ 1,500 บาท มีจ้างรถโดยสารเพื่อใช้เดินทาง เบื้องต้นพบหลักฐานเป็นรายชื่อประชาชน, หมายเลขโทรศัพท์, รายชื่อแกนนำ และรถโดยสารไม่ประจำทางที่ว่าจ้างมาจากจังหวัดอุบลราชธานี และ จังหวัดอำนาจเจริญ ซึ่งถือเป็นการกระทำที่ไม่เป็นตามท่ี่รัฐธรรมนูญกำหนดว่าด้วยสิทธิและเสรีภาพการชุมนุม เพราะกรณีดังกล่าวไม่ใช่วิถีทางประชาธิปไตยที่ประชาชนจะสมัครใจเข้าร่วมชุมนุม
"ช่วงเดือนสิงหาคม สถานการณ์การเมืองจะร้อน เพราะคดีรับจำนำข้าวนั้นมีเดิมพันและแรงกดดันสูง ดังนั้นเขาต้องการเคลื่อนไหวทางการเมือง ซึ่งไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไรสิ่งที่เขาจะทำ คือ การสร้างคะแนนเสียงให้กับพรรคการเมือง เพื่อหวังผลต่อคะแนนนิยมช่วงเลือกตั้ง และ ความพยายามโค่นล้มรัฐบาล และ คสช. ผ่านการก่อเหตุจราจล ซึ่งกลุ่มฮาร์ดคอร์ของเครือข่ายนั้นเขาประกาศอุดมการณ์ชัดเจนว่าอยากทำสงครามประชาชน ผมขอให้คนที่คิดจะทำนั้นหยุด เพราะหากไม่หยุดเชื่อว่าจะเป็นอันตรายและมีเหตุที่นำไปสู่ความวุ่นวาย บ้านเมืองเสียหาย เศรษฐกิจไม่เดินหน้า" นายสมชาย กล่าว
นายสมชาย กล่าวเรียกร้องไปยังหน่วยงานของรัฐบาล ให้ดำเนินการป้องกันกรณีที่อาจจะเกิดขึ้น อาทิ บังคับใช้พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การชุมนุมสาธารณะ อย่างเคร่งครัด ด้วยการกันพื้นที่ศาลรัฐธรรมนูญ ในระยะ 5 กิโลเมตร เป็นเขตห้ามชุมนุม, ใช้ พ.ร.บ.ที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบเส้นทางการเมือง กับนักการเมืองท้องถิ่น หรืออดีต ส.ส. ที่พบความเคลื่อนไหวของการใช้เงินที่ผิดปกติ.