"พล.อ.ไพบูลย์" ลั่น ถอดยศ "ทักษิณ" ต้องจบซะที

เมื่อเวลา 09.15 น. พลเอกไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะหัวหน้าฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการเจาะลึกทั่วไทยอินไซด์ไทยแลนด์ ทางสถานีวิทยุเอฟเอ็ม 97.0 เมกะเฮิร์ทถึงการที่กระทรวงยุติธรรมได้รับมอบหมายให้ดูแลงานการถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.)ว่า เรื่องนี้ตามกฎหมายต้องให้ตำรวจดำเนินการ เป็นอำนาจของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.)ที่ต้องลงนามดำเนินการ แต่ในฐานะที่ตนอยู่กระทรวงยุติธรรมและเป็นหัวหน้าฝ่ายกฎหมายของคสช. ท่านหัวหน้าคสช.คงดูแล้วว่าเป็นกระแสสังคมที่มีการนำเสนอผ่านสื่อมวลชนที่มีเรื่องนี้ออกมาเป็นระยะๆ ต้องยอมรับว่ามีเรื่องนี้ออกมาจริงจะปฏิเสธไม่ได้ จึงมอบหมายให้ตนไปดูว่าติดขัดตรงไหนบ้างผมตั้งไว้แหละว่าต้องสรุปให้ได้ว่าจะถอดหรือไม่ถอดก็ต้องบอกประชาชนเขาไป ไม่ต้องไปอ้ำอึ้ง เพราะเรามีปัญหาเรื่องการบังคับใช้กฎหมาย การเลือกปฏิบัติ เรื่องการใช้อิทธิพล เรื่องการเหลื่อมล้ำที่เราพูดกันมาก่อนวันที่ 22 .ค. 2557 ดังนั้นรัฐบาลชุดนี้ก็ไม่ควรจะทำอย่างนั้นไม่ว่าจะเรื่องอะไร และก็ต้องให้ได้ ไม่เช่นนั้นมันก็กลับไปสู่ปัญหาเดิมๆ สังคมก็จะพูดกันอยู่อย่างนี้ สุดท้ายต้องตอบประชาชนและสังคมให้ได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นพล.อ.ไพบูลย์ กล่าวรมว.ยุติธรรม กล่าวอีกว่า ความจริงเรื่องการถอดยศใครสักคนไม่ควรจะเป็นประเด็นของบ้านเมืองเลย เพราะสตช.มีพระราชบัญญัติสำนักงานตำรวจแห่งชาติมาตั้งแต่ปี 2547 แล้ว และมีระเบียบสำนักงานฯที่รองรับกฎหมาย ซึ่งการถอดยศก็อยู่ในระเบียบของสตช. ฉะนั้นคงมีข้อมูลและการดำเนินการมาตลอดเป็นปกติ แต่ทั้งนี้อย่าเพิ่งไปกล่าวอะไรกับสตช.เพราะเราต้องฟังว่าเขามีเหตุผลอะไร การล่าช้าจริงหรือไม่ หรืออาจจะเป็นการทำตามเวลาปกติก็ได้แต่เผอิญคนสนใจเยอะ ความจริงสิบเอ ร้อยตำรวจเอก ก. ร้อยตำรวจเอก ข. คงจะมีการถอดยศกันทุกวัน หรืออาจจะใช้เวลาปีครึ่งถึงสองปีแบบนี้ แต่ไม่ได้อยู่ในสายตาคน แต่เมื่อเป็นประเด็นอยู่ในสายตาคนก็คิดว่าสองเดือน สิบเดือนการถอดยศต้องเสร็จ ทั้งที่คนอื่นจะใช้เวลาสิบเดือนก็เป็นไปได้ ดังนั้นจึงขอไปดูรายละเอียดก่อน ดังนั้นอย่าเพิ่งไปฟันธงว่าตำรวจไม่แอคชั่น ขอดูก่อนนิดนึงท้ายที่สุดการทำงานของข้าราชการประจำอะไรที่มันเกิดความแคลงใจของประชาชน รัฐบาลก็ต้องเข้าไปว่ามันเกิดอะไรขึ้นจะได้ตอบได้ เพราะสุดท้ายก็ต้องกลับมาหารัฐบาล กลับมาหานายก จึงบอกให้ผมมาดูเรื่องนี้หน่อย เหมือนผมเป็นผู้แทนคณะรัฐมนตรี ส่งมาดูเรื่องนี้จะได้ตอบประชาชนได้ เพราะข้าราชการเขาอาจจะมีขีดจำกัดในการตอบก็ได้ ดังนั้นมีสองอย่างที่ผมจะตอบคือ ถอดได้กับถอดไม่ได้ ก็แค่นั้นรมว.ยุติธรรม กล่าวเมื่อถามว่าการที่ต้องมารบกวนท่านแสดงว่าต้นทุนทางสังคมของพล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. อาจจะไม่มากเท่ากับท่าน พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า ไม่ใช่อย่างนั้น อย่าไปเข้าใจอย่างนั้น เพราะบางเรื่องข้าราชการประจำเขาก็มีขีดจำกัดของเขาถ้ามองในแง่ของการทำงาน จริงๆหลายเรื่องข้าราชการไม่อยากจะตอบ สุดท้ายก็กลับมาที่ข้าราชการการเมืองที่ต้องตอบบางประเด็นปัญหา เพราะตนเองก็ไม่ได้มีต้นทุนเยอะแยะไม่ได้มีอะไรพิเศษกว่าคนอื่นอะไร เพียงแต่ว่าตนมีหน้าที่ดูแลเรื่องกระบวนการยุติธรรม อันนี้ก็ใช่เพราะเป็นเรื่องกฎเกณ์การใช้กฎหมายก็ต้องมาดูแลเมื่อถามว่าในเมื่อท่านกับพล.ต.อ.สมยศ เป็นเพื่อนเตรียมทหารรุ่นเดีรยวกันได้ถามเพื่อนบ้างหรือไม่ว่าทำไมเรื่องนี้ถึงใช้เวลานานจนสังคมมีคำถาม พลเอกไพบูลย์ กล่าวว่า ในช่วงก่อนนี้ไม่ได้ถาม เพราะว่าไม่ได้เป็นงานของตน ไม่ได้เข้าไปลึกเราไม่ได้ดูถึงระเบียบสตช. แต่ก็เรียนผบ.ตร.แล้วว่าวันนี้(10ส.ค.)จะลงนามทำหนังสือถึงเพื่อขอให้จัดบุคคลที่เกี่ยวข้อง คือ 1.พลตำรวจเอกชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล ประธานคณะกรรมการพิจารณาถอดยศพ.ต.ท.ทักษิณ ที่น่าจะหาข้อมูลมาแล้ว เพื่อตนจะได้ทำงานให้ไวขึ้น 2.ฝ่ายกฎหมาย 3.เจ้าหน้าที่ที่ดูแลเรื่องกำลังพล ก็ได้สอบถามผบ.ตร.ไปแล้วว่า 3 คนพอหรือไม่ หรือถ้ามีมากกว่านั้นก็ขอให้ส่งมา ส่วนตนก็หารือกันว่าน่าจะมีหน่วยงานอื่นหรือไม่ เช่น คณะกรรมการกฤษฎกีกา ที่ดูแลเรื่องระเบียบพ.ร.บ.สตช.ปี2547 เพราะพอจะทราบว่ามีหนังสือไปถึงกฤษฎีกาเพื่อสอบถามเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน จึงคิดว่าน่าจะมีกฤษฎีการ่วมหารือด้วย และในส่วนของกระทรวงยุติธรรมจะมีกองกฎหมายและสำนักงานกิจการยุติธรรมอีกชุดก็จะเข้ามาร่วมด้วยบอกไปแล้วว่าเอารายละเอียดมาคุยกัน เอาเรื่องราวมาให้ครบ ไม่อยากมาคุยกันแล้วบอกว่าเรื่องนี้ไม่ได้เอามาครับมันเสียเวลา วันนี้จะทำให้ครบแล้วเชิญมาทีเดียวแล้วเอาข้อมูลมาพูด แต่วันนี้ยังไม่ได้นัดกันเพราะไม่รู้ว่าจะว่างกันเมื่อไร แต่ผมอยากจะนัดประชุมภายในอาทิตย์นี้ เพราะผมทำงานไว แต่ต้องเข้าใจว่าแต่ละท่านที่เชิญมาท่านว่างกันหรือไม่พล.อ.ไพบูลย์ กล่าว
เมื่อถามว่าภายในเดือนสิงหาคมนี้ต้องได้คำตอบใช่หรือไม่ หัวหน้าฝ่ายกฎหมายฯคสช. กล่าวว่า ต้องได้ เพราะเหลือเวลาตั้งสิบกว่าวัน แล้วจะนั่งทำอะไรกันอยู่ มันจะได้จบจบ และตนจะได้ไปทำงานอื่นเมื่อถามว่าในมุมมองของท่านคิดว่าใครที่ทำให้ประเทศไทยเสียเวลากับการถอดยศผู้ชายคนหนึ่ง พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ เพราะตนเป็นทหารไม่ได้เกี่ยวข้องด้วย วันนี้มีคสช.มาบริหารก็ต้องมาทำและต้องถามว่าเรื่องราวมันเป็นยังไง ตนยังไม่รู้เลยว่าใครเป็นคนร้องเรียน เรื่องมันตั้งนานแล้วไม่ใช่หรือ ก็รู้แค่จากสื่อมวลชน แต่ถ้ารู้จริงแล้วตนจะตอบให้ทราบจริงๆ แต่วันนี้จะนำคำพูดของคนมาล่าให้ฟังมันไม่ได้ จึงขอเวลานิดนึงผมทำเรื่องนี้ในการบังคับใช้กฎหมายให้เท่าเทียมกัน ผมพูดไปแล้วว่าผมไม่ได้สนใจว่าใครชื่ออะไร ผมทำหน้าที่ตรงนี้เพื่อตอบสังคมให้ได้ว่าถ้าท่านไม่ผิดก็ต้องตอบสังคมให้ได้ว่าทำไม่ได้เพราะมันเป็นอย่างงี้ ต้องให้ความเป็นธรรมกับท่านด้วย ต้องกล้าให้ความเป็นธรรมกับเขา ไม่ใช่ว่าเป็นอดีตนายก อีกฝ่ายก็อยากให้ปลดก็เลยไม่กล้าพูดทั้งที่ปลดไม่ได้ ผมก็จะกล้าพูด ผมบอกเลยว่าผมจะกล้าพูด ผมจะพูดคำนี้ว่าไม่ต้องปลดเพราะปลดไม่ได้เพราะอย่างงี้อย่างงี้ มันจะได้จบเสียทีเรื่องนี้ แต่ถ้าปลดได้ผมก็ต้องกล้าพูดว่ามันมีเหตุต้องปลดเพราะกฎหมายมันเป็นอย่างนี้จะให้ผมหลีกเลี่ยงกฎหมายไปตรงไหน มันคือสิ่งที่ต้องทำ เพราะสตช.ถอดยศคนตั้งเยอะตั้งแยะ แล้วถ้ามันเคสตรงนี้แล้วคนที่ถอดยศไปแล้วเขามาร้องกลับมาว่าทำไมคดีของผมท่านถึงมาถอดยศผมหละ แล้วมันจะไม่ร้องกันเต็มบ้านเต็มเมืองหรอ เพราะกฎหมายฉบับเดียวกัน มันไม่สามารถที่จะหลีกเลี่ยงคำว่า ปลด ถอดกับไม่ถอดได้เลย ให้ความเป็นธรรมเขา อย่าเพิ่งไปพูดเลยว่าไม่ถอดก็บอกว่าไม่ถอดเพราะระเบียบมันไม่มี มันจะได้จบ มันเสียเวลา มันต้องจบพล.อ.ไพบูลย์ กล่าว