หญิงชราวัย 60 ปี ชาวอินโดนีเซีย ที่นับถือศาสนาคริสต์ ได้ถูกเฆี่ยนด้วยหวายเกือบ 30 ครั้ง ต่อหน้าฝูงชนหลายร้อยคนที่จังหวัดอาเจะห์ ในความผิดฐานจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา และนับเป็นครั้งแรกที่บุคคลนอกศาสนาอิสลาม ด้วยลงโทษตามกฎหมายอิสลาม หรือ ชารีอะฮ์ นอกจากนี้ ยังมีหนุ่มสาวคู่ชาวมุสลิมอีกคู่หนึ่ง ที่ถูกเฆี่ยนคนละ 100 ครั้ง ในวันเดียวกัน โทษฐานผิดประเวณี
อาเจะห์ ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของเกาะสุมาตรา เริ่มบังคับใช้กฎหมายชารีอะห์เป็นกฎหมายหลักเมื่อปี 2554 หลังได้รับสถานภาพเขตปกครองตนเองจากรัฐบาลอินโดนีเซีย โดยเป็นเพียงจังหวัดเดียวในประเทศที่ใช้กฏหมายนี้ แม้ประชากรส่วนใหญ่ของประเทศกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ จะนับถือศาสนาอิสลามก็ตาม ซึ่งกฎหมายชารีอะฮ์ครอบคลุมถึงการลงโทษผู้มีความผิดฐานดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เล่นการพนัน รักร่วมเพศ ผิดประเวณี และการแสดงความสนิทสนมระหว่างชายหญิงที่ไม่ใช่คู่สมรส ทั้งยังมีการควบคุมความประพฤติของผู้หญิงอย่างเข้มงวดอีกด้วย
ที่ผ่านมา มีการใช้กฎหมายชารีอะฮ์กับมุสลิมเท่านั้น แต่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสำนักอัยการกลางในอาเจะห์ ระบุว่า มีการออกข้อบังคับต่อเนื่องที่มีผลบังคับใช้เมื่อปี 2558 อนุญาตให้ใช้บทลงโทษกับบุคคลนอกศาสนาได้แล้วแต่กรณี