ด้วยความช่วยเหลือของทีม See Possibilities ช่วยให้ Dan Berlin สามารถพิชิตเส้นทางนี้ด้วยระยะทางประมาณ 41 กิโลเมตร ภายในเวลา 13 ชั่วโมง ซึ่งสำหรับเส้นทางนี้ไม่เหมาะสำหรับนักกีฬาสมัครเล่น เพราะแม้แต่นักกีฬาที่อวัยวะครบ 32 ยังยอมรับว่าเป็นการเดินทางที่ยากมากแล้ว ปกติแล้วจะใช้เวลามากถึง 4 วันเพื่อพิชิตเส้นทางแห่งนี้ ซึ่งจะต้องเดินผ่านภูเขา 3 ลูก ผ่านความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 4,267 เมตร (14,000 ฟุต)
แม้ Berlin จะไม่สามารถมองเห็นอะไรได้เลย เป็นเวลา 20 ปีผ่านมา แต่ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจ เขาจึงตัดสินใจมาเป็นนักวิ่งมาราธอน เพื่อที่จะต่อสู้กับความโศกเศร้าที่ก่อตัวขึ้นมานั่นเอง
ทีมปีนเขาเริ่มต้นการเดินทางตั้งแต่เวลา 4.30 น. โดยตั้งเป้าหมายเอาไว้ว่าจะต้องไปถึงจุดเช็คพอยท์ในเวลา 16.00 น. ก่อนพระอาทิตย์ตกดิน
การเดินทางผ่านไปหลายชั่วโมง เส้นทางยิ่งยากขึ้นเรื่อยๆ และทีมต้องพบกับอุปสรรคมากมาย แต่ด้วยเทคนิคที่ให้ Berlin จับกระเป๋า Berna และ Scott เพื่อนร่วมทีมของ Berlin เอาไว้ด้วย ทำให้การเดินทางผ่านไปได้อย่างรวดเร็ว จนในที่สุดพวกเขาก็สามารถไปถึงจุดเช็คพอยท์ก่อนเวลาที่กำหนดไว้เพียง 2 นาที!! และ เมื่อเวลาประมาณ 17.40 น. พวกเขาได้ขึ้นไปถึงยอดมาชูปิกชูได้สำเร็จ
"เป้าหมายสำหรับคนทั่วไปก็คือการได้เห็นวิวทิวทัศน์อันสวยงามของเขามาชูปิกชู แต่สำหรับผมไม่ใช่การมองเห็นวิวเหล่านั้น แต่เป็นการได้เดินไปในเส้นทางปีนเขานี้ และสัมผัสมันได้ แค่นั่นก็ทำให้ผมมีความสุขที่สุดในชีวิตแล้ว" Berlin กล่าว