svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธลูกใหม่ที่ยังไม่ติดหัวรบนิวเคลียร์ ข้ามเหนือเกาะฮอกไกโด

เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธลูกใหม่ที่ยังไม่ติดหัวรบนิวเคลียร์เมื่อเวลา 05.58 น.เช้าวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น ส่งผลให้คาบสมุทรเกาหลีมีความตึงเครียดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง โดยจรวดมีการบินอยู่ในอากาศเป็นระยะทาง 2,700 กิโลเมตร (1,678 ไมล์) สูงขึ้นไป 550 กิโลเมตร ข้ามเหนือเกาะฮอกไกโด มาตกลงในทะเลราว 1,180 กิโลเมตร (733 ไมล์) ใกล้แหลม Erimo ทางฝั่งตะวันออกในมหาสมุทรแปซิฟิก โดยทางการญี่ปุ่นประกาศเตือนประชาชนเฝ้าระวังสัญญาณแจ้งเตือนภัย

ขณะที่นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ออกมาแถลงตอบโต้ว่าญี่ปุ่นจะไม่ยินยอมต่อไปเพราะถือเป็นความคุกคามความมั่นคง โดยจะขอทำการประท้วงอย่างรุนแรงต่อการกระทำของเกาหลีเหนือที่ละเมิดมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาตื (UNSC) ซึ่งผลกระทบดังกล่าวเกิดขึ้นต่อเงินเยนร่วงลงในรอบ 4 เดือนที่ระดับ 109 เยนต่อดอลลาร์ ขณะที่นิกเกอิเปืดตลาดร่วงลง 160 จุด มาอยู่ในระดับต่ำที่ 19.286
ทางด้านรัฐบาลเกาหลีใต้เริ่มจับตาความเคลื่อนไหวของตลาดการเงินอย่างใกล้ชิด และกำลังพิจารณาใช้แผนฉุกเฉินเพื่อลดความผันผวน หากมีความจำเป็น ทั้งนี้ กระทรวงการคลังได้มีการประชุมฉุกเฉินร่วมกับธนาคารกลางเกาหลีใต้และหน่วยงานกำกับดูแลตลาดเงิน ถึงการเตรียมพร้อมเพื่อรับมือกับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ ส่วนเพนตากอนเพียงออกแถลงการณ์ยืนยันเกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธลอยข้ามประเทศญี่ปุ่นก่อนไปตกในมหาสมุทรแปซิฟิก นอกชายฝั่งเกาะฮอกไกโด โดยไม่ได้ระบุว่า ขีปนาวุธชนิดใด

1.เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธลูกใหม่ที่ยังไม่ติดหัวรบนิวเคลียร์เมื่อเวลา 05.58 น.เช้าวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น ส่งผลให้คาบสมุทรเกาหลีมีความตึงเครียดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง โดยจรวดมีการบินอยู่ในอากาศเป็นระยะทาง 2,700 กิโลเมตร (1,678 ไมล์) สูงขึ้น/ป 550 กิโลเมตร ข้ามเหนือเกาะฮอกไกโด มาตกลงในทะเลราว 1,180 กิโลเมตร (733 ไมล์) ใกล้แหลม Erimo ทางฝั่งตะวันออกในมหาสมุทรแปซิฟิก
ในการยิงขีปนาวุธครั้งนี้เกิดขึ้นห่างจากกายิงขีปนาวุธพิสัยใกล้ 3 ลูกในน่านน้ำตะวันออกเมื่อเช้าวันเสาร์ที่ผ่านมา ซึ่งขีปนาวุธ 2 ลูกบินลอยออกไปทางตอนเหนือราว 250 กิโลเมตร ขณะที่อีก 1 ลูกระเบิดออกในทันทีที่ปล่อยออกจากฐานยิง
โดยที่การยิงขีปนาวุธของเกาหลีติดๆ กันถึงสองครั้งในช่วงเวลาที่ห่างกันเพียง 3 วันนี้ ท่ามกลางการซ้อมรบรับมือนิวเคลียร์ระหว่างกองทัพเกาหลีใต้กับกองทัพสหรัฐที่มีกำหยดเวลา 10 วันซึ่งเริ่มมาตั้งวันที่ 21 สิงหาคม โดยที่ไม่มีการระงับการซ้อมรบแต่อย่างใด ทั้งที่เกาหลีเหนือได้ยอมถอยกับการขู่ยิงขีปนาวุธข้ามทวีปในช่วงกลางเดือนสิงหาคม ไปที่เกาะกวมซึ่งเป็นที่ตั้งฐานทัพสหรัฐในมหาสมุทรแปซิฟิก


2.ทางด้านทางการญี่ปุ่นประกาศเตือนประชาชนเฝ้าระวังสัญญาณแจ้งเตือนภัย ขณะที่ชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ออกมากล่าวประณามการยิงขีปนาวุธของเกาหลีเหนือครั้งนี้ว่า เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของญี่ปุ่น โดยถือว่าเป็นพฤติการณ์ที่อุกอาจของทางการเปียงยางครั้งนี้ โดยจะขอทำการประท้วงอย่างรุนแรงต่อการกระทำของเกาหลีเหนือที่ละเมิดมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาตื (UNSC)
โดยที่ทางการญี่ปุ่นระบุว่า ขีปนาวุธได้ถูกยิงออกจากบริเวณชายฝั่งด้านตะวันตกของเกาหลีเหนือ พุ่งไปยังทิศตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่นเมื่อเวลาประมาณ 06.06 น. ตามเวลาท้องถิ่น จากนั้นก็ลดระดับลงและไปตกในน่านน้ำมหาสมุทรแปซิฟิก ห่างจากแหลม Erimo ไปทางตะวันออกประมาณ 1,180 กิโลเมตรเมื่อเวลาราว 06.12 น.
ทางด้านกระทรวงกลาโหมสหรัฐเพียงแต่ออกแถลงการณ์ยืนยันเกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธลอยข้ามประเทศญี่ปุ่นก่อนไปตกในมหาสมุทรแปซิฟิก นอกชายฝั่งเกาะฮอกไกโด โดยไม่ได้ระบุว่า ขีปนาวุธชนิดใด


3. ผลกระทบดังกล่าวเกิดขึ้นต่อเงินเยนร่วงลงในรอบ 4 เดือนที่ระดับ 109.08 เยนต่อดอลลาร์ ขณะที่นิกเกอิ 225 ซึ่งเป็นตลาหุ้นล่วงหน้ามีความผันผวนหนัก เปิดตลาดร่วงลง 160 จุด มาอยู่ในระดับต่ำที่ 19.286 เป็นการตกต่ำมากที่สุดในรอบ 4 เดือนเช่นกัน ทั้งที่ ตลาดหุ้นญี่ปุ่นทุกวันนี้ มีธนาคารกล่งญี่ปุ่น (BOJ) กลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ 1 ใน 5 อันดับแรกถึงจำนวน 81 บริษัทจากจำนวน 225 บริษัท และเป็นที่คาดว่าจนถึงปลายปีหน้านี้ BOJ จะกลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับหนึ่งถึง 55 บริษัท
ขณะที่รัฐบาลเกาหลีใต้จับตาความเคลื่อนไหวของตลาดการเงินอย่างใกล้ชิด และกำลังพิจารณาใช้แผนฉุกเฉินเพื่อลดความผันผวน หากมีความจำเป็น ทั้งนี้ กระทรวงการคลังได้มีการประชุมฉุกเฉินร่วมกับธนาคารกลางเกาหลีใต้และหน่วยงานกำกับดูแลตลาดเงิน ถึงการเตรียมพร้อมเพื่อรับมือกับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ หลังเงินวอนร่วงงลงที่ 1,128.80 ต่อดอลลาร์ ซึ่งก่อนหน้านี้เคยร่วงลงไปที่ 1,143 วอนต่อดอลลาร์ช่วงต้นเดือนสิงหาคม ส่วนดัชนีหุ้น KOSPI ร่วงลง 2.16% ช่วงเช้าวันนี้

4.ขณะที่ราคาทองพุ่งขึ้นยีนเหนือระดับ 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ที่ระดับสูงถึง 1,235 ดอลลาร์ นับได้ว่าเป็นการให้ผลตอบแทนที่ดีสุดท่ามกลางความตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลี และความเสี่ยงของปัญหาภูมิรัฐศาสตร์และสงครามการค้า
ส่วนนักลงทุนเชื่อว่าทองเป็นสินทรัพย์น่าลงทุนในการป้องกันความเสี่ยงจากความปั่นป่วนของสินทรัพย์การเงินอื่น โดยเฉพาะความบิดเบือนที่เกิดขึ้นกับการลงทุนในตลาดบอนด์รัฐบาลสหรัฐ ซึ่งพบว่าขณะนี้อยู่ในมือของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และรัฐบาลต่างประเทศถึง 60% โดยที่ 35% เป็นการถือครองของเฟดที่ครบกำหนดในช่วงปี 2027-2047
นอกจากนี้ Bitcoin ที่มีการเก็งกำไรสูงสุดอีกประเภทหนึ่งนั้น ล่าสุดพุ่งทะลุขึ้นไปที่ 4,430 ดอลลาร์ หลังจากแตะสูงสุดที่ 4,441 ดอลลาร์ โดยมีมูลค่ามาร์เก็นแคปที่ 7.3 หมื่นล้านดอลลาร์ จากสถานการณ์ความเสี่ยงภัยของความขัดแย้งในคาบสมุทรเกาหลีขณะนี้

5. ส่วนทางด้านทำเนียบขาวยังไม่ปรากฏท่าทีของประธานาธิดบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีเพียงสื่อสหรัฐที่ออกมารายงานถึงคำสั่งของปรธานาธิบดีได้สั่งการให้คณะที่ปรึกษาประจำทำเนียบขาวร่างแผนมาตรการทางภาษีเพื่อเตรียมบังคับใช้และตอบโต้ทางการค้ากับจีน รวมทั้งการสอบสวนกรณีการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของจีนด้วย

โดยที่มีการประชุมระหว่างประธานาธิบดีทรัมป์กับคณะที่ปรึกษาภายในห้องทำงานรูปไข่ ได้บอกกับจอห์น เคลลี หัวหน้าคณะที่ปรึกษา ว่า เขาต้องการมาตรการภาษี และต้องการให้ใครบางคนที่นั่งอยู่ในนี้ร่างแผนการนี้ขึ้นมา ถึงแม้ว่า ใครบางคนกำลังรู้สึกหัวเสีย เพราะสนับสนุนโลกาภิวัตน์ได้นั่งอยู่ในห้องนี้ โดยที่พวกเขาไม่ต้องการให้ตั้งกำแพงภาษีก็ตาม

ทั้งนี้ มีการระบุว่าผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย โรเบิร์ต ไลท์ไทเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ ปีเตอร์ นาวาร์โร ที่ปรึกษาด้านการค้า แกรี โคห์น ผู้อำนวยการสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจแห่งชาติ