เมื่อวันที่ 5 มิ.ย.60 นายศิรินทร์ยา สิทธิชัย เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พร้อมด้วย นายกุลิศ สมบัติศิริ อธิบดีกรมศุลกากร พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข ผบช.ปส. สั่งการให้เจ้าหน้าที่ร่วมกันสืบสวนจับกุมนักค้ายาเสพติด ตามโครงการสกัดกั้นยาเสพติดทางท่าอากาศยานสากลในอาเซียน ผู้ต้องหา 3 คน และของกลางโคเคน 12.3 กิโลกรัม ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
การจับกุมในครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 3 มิ.ย.2560 สำนักงาน ป.ป.ส. ได้รับการประสานการข่าวจากตำรวจเขตปกครองพิเศษฮ่องกงว่า มีนักค้ายาเสพติดลักลอบนำยาเสพติดจากประเทศบราซิลเข้ามาในประเทศไทย เพื่อจะส่งต่อไปยังเขตปกครองพิเศษฮ่องกง
จนกระทั่งเวลาประมาณ 12.30 น.ชุดจับกุมประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. ศุลกากร ตำรวจปราบปรามยาเสพติด จึงร่วมกันสะกดรอยติดตามผู้ต้องสงสัยจำนวน 3 คนขณะที่ผู้ต้องสงสัยทั้ง 3 คนกำลังจะเดินผ่านจุดตรวจศุลกากร อาคารผู้โดยสารขาเข้า เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าแสดงตัวเพื่อขอตรวจค้นร่างกายและสัมภาระของทั้ง 3 คน ซึ่งเป็นหญิง 2 คน ชาย 1 คน สัญชาติจีนฮ่องกง
ทราบชื่อ 1. นางสาวฟง ยี่ ติง (MS.FONG YEE TING) อายุ 19 ปี 2.นางสาวตุง วิง ยาน (MS.TUNG WING YAN) อายุ 22 ปี และ 3.นายหยู คิท หลง (MR.YAU KIT LONG) อายุ 24 ปี และเมื่อเปิดกระเป๋าจึงพบโคเคน จำนวน 3 ชิ้น รวมน้ำหนักทั้งสิ้น 12.3 กิโลกรัม ซุกซ่อนอยู่ในช่องลับ จึงได้จับกุมและแจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ในข้อหา ร่วมกันนำยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคเคน) เข้ามา ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคเคน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต "
จากการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 3 คนแจ้งว่าได้รับการว่าจ้างจากหญิงชาวจีนฮ่องกงอีกคน ชื่อ น.ส.หมิง (ไม่ทราบชื่อสกุลจริง) โดยได้รับค่าจ้างคนละ 8,000 เหรียญดอลล่าร์ฮ่องกง หรือประมาณ 40,000 บาท ให้นำยาเสพติดของกลางจากประเทศบราซิลเข้ามาในไทย หลังจากนี้จะต้องนำยาเสพติดไปส่งมอบให้ น.ส.หมิง ณ โรงแรมแห่งหนึ่งในพื้นที่สุขุมวิท
ต่อมาตรวจสอบพบว่า น.ส.หมิง ได้ออกจากโรงแรมดังกล่าวและเดินทางกลับเขตปกครองพิเศษฮ่องกงไปในวันเดียวกันอย่างกะทันหัน เชื่อว่า น.ส.หมิง ไหวตัวและกลัวการถูกจับกุม ชุดจับกุมจึงได้ร่วมกันควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คน มาทำบันทึกจับกุม ก่อนนำตัวพร้อมของกลางทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส.ต่อไป
เลขาธิการ ป.ป.ส.ระบุ นายศิรินทร์ยา กล่าวว่า การจับกุมโคเคนจำนวน 12.3 กิโลกรัม ในครั้งนี้เป็นผลมาจากการสืบสวนร่วมกันระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ภายใต้โครงการสกัดกั้นยาเสพติดทางท่าอากาศยานสากลในอาเซียน ซึ่งริเริ่มโดยประเทศไทย มีวัตถุประสงค์เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร การสืบสวน รวมไปถึงการแลกเปลี่ยนข้อมูลในการจับกุมของแต่ละประเทศ เพื่อสกัดกั้นการขนส่งยาเสพติดผ่านท่าอากาศยานของประเทศอาเซียน
ทั้งนี้สำนักงาน ป.ป.ส. จะร่วมกับหน่วยงานทีเกี่ยวข้องขยายผลเพื่อจับกุมเครือข่ายนี้ต่อไป