กว่า 2 ชั่วโมงเต็ม พ.ต.อ.ไพสิฐ เริ่มต้นอธิบายละเอียดยิบว่า กล้องวงจรปิดทั้งอาคารรวม 49 ตัว ซึ่งเริ่มใช้งานตั้งแต่ปี 50 อายุการใช้งาน 9 ปี ยังใช้งานได้ปกติ ใช้ดูภาพเรียลไทม์ได้ตามปกติ มีเพียงระบบบันทึกภาพเท่านั้นที่ผิดปกติ ซึ่งตรวจพบอาการ "รวน" บันทึกได้บ้างไม่ได้บ้าง ตั้งแต่เดือนเมษายน 59 จึงได้ทำบันทึกรายงานและขอซ่อมแซมไปแล้ว พร้อมกับสัญญาว่าจ้างติดตั้งระบบกล้องวงจรปิดใหม่ตั้งแต่ 30 พ.ค. โดยจะดำเนินการแล้วเสร็จ 27 ต.ค.
ขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตั้งระบบใหม่ (กล้องบี) ยังไม่เปิดใช้งาน ส่วนระบบเดิม (กล้องเอ) ก็ยังสามารถใช้งานดูภาพในระบบเรียลไทม์ได้ตามปกติ
เมื่อพบว่าเซิฟเวอร์ระบบบันทึกภาพมีปัญหา ดีเอสไอจึงย้ายกล้องสำรองจากอาคารสถาบันการสอบสวนพิเศษ มาติดตั้งที่ชั้นจี ซึ่งเป็นทางเข้าออกหลัก จำนวน 4 ตัว สามารถบันทึกภาพบุคคลเข้าออกอาคารดีเอสไอได้ทั้งหมด
ขณะเกิดเหตุ (29-30 ส.ค.) เป็นเวลาหลัง 18.00 น. ดีเอสไอจะปิดทางเข้าออกทุกประตู เหลือไว้แค่ประตูด้านหน้าตึกชั้นจี เท่านั้น การเข้าออกภายในตัวอาคารทุกชั้นตามปกติจะต้องใช้บัตรประจำตัวอิเล็คทรอนิกส์ (คีย์การ์ด) ซึ่งมีการบันทึกการเข้าออกด้วยระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นหลักฐานที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ ส่วนลิฟต์จะเปิดใช้เพียงตัวเดียวด้านในตัวอาคาร
จากนั้น อธิบดีดีเอสไออธิบายพร้อมได้เปิดเทปบันทึกกล้องวงจรปิดประกอบการแถลงข่าว เป็นครั้งแรก โดยเป็นภาพแสดงให้เห็นตั้งแต่รถพยาบาลมาจอดหน้าตึกดีเอสไอเวลา 01.17 น. โดยพยาบาลหัวหน้าทีมกู้ชีพได้นำอุปกรณ์ปฐมพยาบาลออกจากรถ มีรปภ.เดินนำเข้าไปภายอาคาร จากนั้นบุรุษพยาบาล 2 นาย นำเตียงเข็นผู้ป่วยมารับผู้ป่วย ซึ่งจะเห็นว่าลิฟต์ทั้ง 3 ตัว ถูกปิด การขึ้น-ลงอาคารใช้ ได้เพียงลิฟต์ชั้นในเพียงตัวเดียว จากนั้นเป็นคลิปภาพได้นำผู้ต้องหาออกจากลิฟต์ชั้น G เวลา 01.24 น. และรถพยาบาลเคลื่อนออกจากดีเอสไอเวลา 01.27 น.กระบวนการเสร็จสิ้นภายในเวลา 10 นาที
นอกจากนั้น ยังได้นำภาพนิ่งที่บันทึกจากกล้องโทรศัพท์มือถือ ตั้งแต่ชั้นจับกุมตัววันที่ 29 ส.ค. โดยแสดงถึงการจับกุมตามขั้นตอนกฎหมาย มีการแสดงหมายจับ ก่อนนำตัว "ธวัชชัย อนุกูล" ขึ้นรถยนต์เดินทางจากบางบัวทองมายังดีเอสไอ และสอบปากคำ ทำประวัติอาชญากรก่อนส่งตัวเข้าควบคุมในห้องขัง ซึ่งมีภาพขณะที่ธวัชชัยอยู่ในห้องควบคุมทั้งอิริยาบถการนั่งและนอนพักผ่อน โดยมีกล่องกระดาษสีน้ำตาลบรรจุของใช้ส่วนตัวของธวัชชัยวางอยู่หน้าห้อง โดยมีรองเท้าและเข็มขัดวางทับอยู่บนกล่องกระดาษ ซึ่งยืนยันว่าเป็นมาตรการรักษาความปลอดภัยป้องกันไม่ให้ทำร้ายตัวเอง จึงไม่อนุญาตให้ผู้ต้องหานำเข็มขัดและรองเท้าเชือกผูกรองเท้าเข้าไปในห้องคุมขัง
นอกจากนี้ยังมีภาพนิ่งแสดงเหตุการณ์ขณะที่รปภ.เข้าไปปฐมพยาบาลปั๊มหัวใจช่วยชีวิตผู้ต้องหาก่อนทีมแพทย์จะมาถึงดีเอสไอ ภาพขณะเคลื่อนย้ายผู้ต้องหาไปกู้ชีวิตต่อที่โรงพยาบาล
ตามติดมาด้วย ประเด็นถุงเท้าที่วิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นถุงเท้าสั้น จะใช้ผูกคอได้อย่างไร โดยอธิบดีดีเอสไอ อธิบายประกอบภาพว่า ตั้งแต่ชั้นจับกุมและชั้นแจ้งข้อกล่าวหาจะพบว่าผู้ต้องหาสวมถุงเท้าคู่เดิม "สีเทา" ความยาวประมาณครึ่งแข้ง แต่ขณะที่ผู้ต้องหายืนเพื่อถ่ายภาพทำประวัติอาชญากรรมถุงเท้าที่เป็นยางยืดได้ร่นลงมาอยู่ที่ข้อเท้า จึงทำให้ถูกเข้าใจผิดว่าเป็นถุงเท้าสั้นแค่ข้อเท้า
หลังการเปิดคลิปภาพที่บันทึกจากกล้องวงจรปิดและกล้องโทรศัพท์มือถือ อธิบดีดีเอสไอ ได้เปิด ส่วนควบคุมผู้ต้องหาและรักษาของกลาง ชั้น 6" ให้ตรวจสอบกันละเอียดยิบ ซึ่งเป็นการเปิดให้สื่อมวลชนเข้าตรวจสอบเป็นครั้งที่ 2 หลังเกิดเหตุ
ภายในมีห้องควบคุมผู้ต้องหา (เดี่ยว) รวม 16 ห้อง ทั่วบริเวณติดตั้งกล้องวงจรปิด 13 ตัว เป็นกล้องระบบเดิม (เอ) 8 ตัว และกล้องระบบใหม่ (บี) 5 ตัว โดยห้องที่เกิดเหตุ 6008 ขอสงวน !!! ห้ามเข้า เพื่อเก็บรักษาสถานที่เกิดเหตุให้ พฐ. เข้าตรวจสอบได้ตลอดเวลา
ภายในห้องควบคุมตัวไม่มีกล้องวงจรปิด แต่จะมีกล้องวงจรปิดติดตั้งพื้นที่ส่วนทางเดินกลางในตัวอาคาร คือ บริเวณหน้าลิฟต์ และพื้นที่ส่วนปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ ในส่วนห้องควบคุมผู้ต้องหา มีประตูล็อคไฟฟ้าชั้นนอกอนุญาตเฉพาะเจ้าหน้าที่ ผู้เข้าออกต้องแตะบัตรแสดงตัว
ในส่วนห้องคุมขัง เป็นระบบความมั่นคง ล็อคเปิดปิดด้วยระบบกุญแจนิรภัย ซึ่งกำกับตัวผู้ถือกุญแจเฉพาะเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบ ดังนั้นเมื่อรปภ.ผู้พบเหตุ "ธวัชชัย" นั่งอยู่ริมประตู เรียกชื่อแล้วไม่ขานรับ ถือเป็นเหตุผิดปกติ รปภ.จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่รับทราบเพื่อนำกุญแจนิรภัยมาไขเปิดประตู จนพบว่า ธวัชชัย ใช้ถุงเท้าแขวนคออยู่กับบานพับประตู
อธิบดีดีเอสไอ ได้ควักผ้าเช็ดหน้าออกมาจำลองให้เห็นว่า บานพับประตูห้องขังซึ่งเป็นประตูนิรภัยอัตโนมัติ มีบานพับเหล็กขนาดใหญ่ ใช้ผ้าคล้องได้จริง เพราะไม่ใช่บานพับประตูตามบ้านพักอาศัยทั่วไป
ต่อจากนั้น อธิบดีดีเอสไอนำสื่อมวชนเข้าตรวจสอบห้องควบคุมระบบ ชั้นจี ซึ่งเป็นห้องควบคุมระบบกล้องวงจรปิดทั้งอาคาร โดยพบว่ากล้องสามารถใช้งานแบบเรียลไทม์ได้ ซึ่งปกติในห้องควบคุมนี้จะมีเจ้าหน้าที่นั่งมอนิเตอร์ภาพอยู่ตลอด นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังได้เปิดภาพนาทีที่รถพยาบาลมาถึงหน้าดีเอสไอและนำตัว "ธวัชชัย" ออกไปโรงพยาบาลให้น้องชายของผู้ตายได้ตรวจสอบภาพผ่านศูนย์ควบคุมอีกครั้ง
สำหรับข้อสงสัยเกี่ยวกับการรายงานเท็จ เช่น การโทรศัพท์แจ้งรถพยาบาลว่าเกิดเหตุผู้ต้องหาเป็นลมหมดสติทั้งที่ผู้ต้องหาผูกคอตาย เรื่องวัสดุที่ใช้ว่าเป็นเสื้อทั้งที่ข้อเท็จจริงเป็นถุงเท้า ทุกประเด็นมอบหมายให้ พ.ต.อ.สุริยา สิงหกมล รองอธิบดีดีเอสไอ เป็นหัวหน้าชุดสืบสวน
โดยขออนุมัติออกเลขสืบสวนเป็นคดีฆาตกรรม!!!! ไม่ใช่ฆ่าตัวตาย เพื่อเริ่มต้นการสืบสวนด้วยข้อหาอุกฉกรรจ์ วางธงสืบสวนเป็นคดีร้ายแรงไม่ใช่เรื่องลหุโทษ ขณะนี้ได้มีการสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องทุกรายแล้ว เริ่มจากชุดจับกุมจนถึงชุดควบคุมตัว
ส่วนรอยรัดที่ลำคอซึ่งถูกตั้งข้อสังเกตว่าเป็นรอยขนาดเล็กจะเกิดจากความยืดหยุ่นของถุงเท้าได้หรือไม่ ลูกกระเดือกที่แตกเกิดจากการรัดคอ หรือปมมัดจากการผูกกันของถุงเท้าที่บีบรัดจนกล่องเสียงแตก ตับฉีกขาดเป็นบาดแผลอย่างไร ปริมาณเลือดออกในช่องท้องมากน้อยอย่างไร ยังคงต้องอดใจรอ 15 วัน เพื่อรับฟังความเห็นจากแพทย์นิติเวชผู้เชี่ยวชาญที่กระทรวงยุติธรรมตั้งขึ้น รวมกับผลการชันสูตรพลิกศพอย่างเป็นทางการจากนิติเวชตำรวจ
ในชั้นสุดท้ายผลการไต่สวนสาเหตุการตายของศาล จะเป็นการชี้ขาด ว่า ธวัชชัย ตายเพราะสาเหตุใด และมีเจ้าหน้าที่ทำให้ตายหรือไม่