รถตู้โดยสาร สายกรุงเทพ-ศรีราชา เสียหลักชนขอบทางดับ 4 ศพ

ที่เกิดเหตุพบรถตู้โดยสารหมายเลขทะเบียน 15-6539 กรุงเทพมหานคร กรุงเทพ-อ่าวอุดม ศรีราชา จอดอยู่ริมทางสภาพห้องโดยสารด้านขวาพังยับเยิน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจำนวน 4 ราย เป็นผู้หญิง 3 ราย ชาย 1 ราย ทราบชื่อต่อมา น.ส.ปัทมา บุติพันคา อายุ 24 ปี น.ส.สุวภัทร อรุณวงศ์ ณ อยุธยา อายุ 31 ปี และ นายณัฐพล เปียสันเทียะ อายุ 50 ปี สภาพศพใบหน้าเละจำเค้าเดิมไม่ได้ แขนขาด ส่วนอีก 1รายเจ้าหน้าที่ยังไม่ทราบชื่อ และมีผู้บาดเจ็บเป็นชาย 6 ราย หญิง 4 ราย ทางเจ้าหน้าที่ได้เร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลบางนา1 จำนวน 3 ราย หนึ่งในนี้บาดเจ็บสาหัส 1 ราย โรงพยาบาลปิยมินทร์ 6 ราย พักรักษาตัวดูอาการ 4 ราย กลับบ้านแล้ว 2 ราย และโรงพยาบาลปิยเวช 1 ราย ส่วนคนขับทราบชื่อต่อมา คือ นาย เหล็กเพ็ชร ประเสริฐ อายุ 48 ปี ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ภายหลังจากเกิดเหตุได้ยืนรอมอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในที่เกิดเหตุ

จากการสอบสวนนายเหล็กเพ็ชร ให้การว่า ได้รับผู้โดยสารสารจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เมื่อเวลา 19.00 น.เพื่อไปส่งอ่าวอุดมศรีราชา จังหวัดชลบุรี ขณะนั้นขับมาอยู่เลนส์กลาง ด้วยความเร็วประมาณ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เมื่อมาถึงโค้งเอส1บริเวณตรงข้ามคลังน้ำมันบางจากก่อนถึงไบเทคบางนา รถเกิดเสียหลักก่อนจะพุ่งชนกับขอบปูนด้านขวา ก่อนที่ตนจะพยายามประคองรถให้เข้าข้างทางโชคดีที่ขณะนั้นไม่มีรถขับตามหลัง แต่ทำให้ผู้โดยสารเสียชีวิต และบาดเจ็บดังกล่าว ซึ่งตามปกติตนจะไม่ขับรถผ่านเส้นนี้ แต่จะใช้เส้นมอเตอร์เวย์มุ่งหน้าเข้าจังหวัดชลบุรี แต่วันนี้รถติดจึงได้เปลี่ยนเส้นทางขึ้นทางด่วนแทน

ด้านนายยิ่งใหญ่ โตชัยภูมิ อายุ 50 ปี ผู้ได้รับบาดเจ็บ กล่าวว่า ตนพร้อม น.ส.สุวภัทร แฟนสาวได้เดินทางมาทำธุระในกทม. และกำลังจะเดินทางกลับ อ.ศรีราชา โดยเดินทางมาขึ้นรถที่อนุสาวรีย์ฯเวลา 18.00 น. ตนนั่งแถวที่ 3 นับจากคนขับ ส่วนแฟนสาวนั่งแถวเดียวแต่อยู่ด้านริมหน้าต่างขวามือ ขณะขับออกมาได้สักระยะหนึ่งคนขับบอกว่ารถมีปัญหายางรั่วจะขอเปลี่ยนยาง ก่อนจะจอดชิดซ้ายเพื่อเปลี่ยนยางโดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงจึงเสร็จสิ้น เมื่อคนขับกลับขึ้นรถและขับออกไป ตนรู้สึกว่ารถขับด้วยความเร็วผิดปกติ ซึ่งไม่สามารถทราบได้ว่าความเร็วอยู่ที่เท่าไหร่แต่คาดว่าเกิน 100 กม./ชม. เมื่อถึงจุดเกิดเหตุตนมีความรู้สึกรถส่ายไปมา และได้ยินเสียงผู้โดยสารกรีดร้องหลังจากนั้นก็เงียบไป ตนจำเหตุการณ์ไม่ได้เนื่องจากเหตุการณ์เกิดเร็วมาก ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจและกู้ภัยจะเข้ามาช่วยเหลือ ทั้งนี้ตนและแฟนสาวมีการวางแผนว่าจะแต่งงานในเร็วๆนี้ แต่มาเกิดเหตุการณ์เช่นนี้เสียก่อน ทำให้รู้สึกเสียใจมาก

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวคนขับรถตู้โดยสารมาสอบปากคำเพิ่มเติม พร้อมทั้งจะติดต่อให้ผู้ได้รับบาดเจ็บเข้ามาให้ปากคำเพิ่มเติมถึงสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้อย่างละเอียดอีกครั้ง โดยทางเจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อหาในเบื้องต้น ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ก่อนจะดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.