ใช้ "The Third Eye" ดูแลนักวิ่ง "ก้าวคนละก้าว"
ขอนแก่น - แพทย์ฉุกเฉินจาก 8 รพ. 5 จังหวัด นำเทคโนโลยีทางการแพทย์ The Third Eye และวิทยุซิม มาใช้ในงานแพทย์ฉุกเฉินติดตามดูแลสุขภาพนักวิ่งเรือนหมื่น ที่มาร่วมโครงการ "ก้าวคนละก้าว" จากหนองคายสู่ขอนแก่น ระยะทาง 180 กม.
กิจกรรมโครงการ ก้าวคนละก้าว ที่จะเริ่มในปีนี้ โดยวิ่งในพื้นที่ภาคอีสานเริ่มจากจังหวัดหนองคาย ถึง จังหวัดขอนแก่น ระยะทางประมาณ 180 กิโลเมตร ใช้เวลาในการวิ่ง 2วัน ได้รับความสนใจจากประชาชนที่ทราบข่าวอย่างมาก เบื้องต้นคาดจะมีผู้สนใจร่วมวิ่งบันทึกสถิตินับหมื่นคนนั้น
ล่าสุดเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 7 มิถุนายน 2562 ที่โรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่น ได้จัดประชุมเตรียมความพร้อมในการอำนวยความสะดวกและดูแลสุขภาพของนักวิ่งที่เข้าร่วมโครงการตลอดเส้นทางกว่า 180 กิโลเมตร จากหนองคายสู่ขอนแก่น โดยมีแพทย์ พยาบาล รวมถึงกู้ชีพจาก 8 โรงพยาบาลและโรงพยาบาลเครือข่าย ใน 5 จังหวัดเดินทางเข้าร่วมพูดคุย
นพ.ชาญชัย จันทร์วรชัยกุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลขอนแก่น กล่าวว่า สำหรับกิจกรรมก้าวคนละก้าว ก้าวต่อไปด้วยพลังเล็กๆ ในครั้งนี้ เพื่อสร้างสถิติมินิมาราธอนที่มีนักวิ่งมากที่สุดในภาคอีสาน ต้องการให้ประชาชนตระหนักถึงการดูแลรักษาสุขภาพของตัวเองเป็นหลัก ลดอัตราการเจ็บป่วยที่ต้องเดินทางมารักษาตัวที่โรงพยาบาล .
.
สำหรับกิจกรรมวิ่งก้าวคนละก้าวก้าวต่อไปด้วยพลังเล็กๆ ที่จัดขึ้น ทางโรงพยาบาลจึงได้จัดประชุมเตรียมความพร้อมในกลุ่มงานเวชศาสตร์ฉุกเฉิน วางแผนการปฏิบัติงาน ทั้งด้าน บุคลากร ทรัพยากรและออกแบบระบบการปฏิบัติการ ให้การปรึกษาการปฏิบัติการของรถฉุกเฉิน พร้อมปฏิบัติงาน ติดตามขบวน ตามระยะที่ได้รับมอบหมาย เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ป่วยหรือผู้บาดเจ็บ ที่อาจจะเกิดเหตุระหว่างการวิ่ง
ด้านนายมารุต บูรณสิริมาศ หัวหน้าทีมสินค้าและระบบ บริษัท TELY 360 จำกัด ได้นำเทคโนโลยีทางการแพทย์ฉุกเฉินมาสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ โดยเตรียมระบบสัญญาณสื่อสาร หรือ วิทยุ SIM และแว่นตา ที่เรียกว่า The Third Eye ซึ่งเป็นแว่นตาที่มีสัญญาณเชื่อมต่อกับระบบแพทย์อำนวยการปฏิบัติการฉุกเฉิน เมื่อสวมแล้วจะทำให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ในศูนย์สั่งการเห็นภาพในพื้นที่เกิดเหตุแบบเรียลทาม สามารถวินิจฉัยสั่งการ ประเมินสถานการณ์ที่นำไปสู่การแก้ไขได้อย่างทันท่วงที นอกจากนี้ยังได้เตรียม วิทยุ SIM จำนวน 60 เครื่อง ไว้ให้เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ในภาคสนามได้ใช้ติดต่อสื่อสารแบบเรียลทามด้วย
"เทคโนโลยีที่นำมาใช้นี้ เคยใช้แล้วในงานพิธีพระราชทานเพลิงศพครูใหญ่หลวงพ่อคูณ ซึ่งมีประชาชนเดินทางมาเป็นจำนวนมาก เหมือนกับงานก้าวคนละก้าวในครั้งนี้ เนื่องจากตามเส้นทางบางจุดอาจจะไม่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอยู่ด้วย เทคโนโลยีนี้จะทำให้เจ้าหน้าที่ภาคสนามสามารถเข้าถึงผู้ป่วยได้เร็วขึ้น แพทย์เห็นอาการเสมือนอยู่ในพื้นที่วินิจฉัยอาการของโรค และเตรียมการรักษาได้ทันท่วงที" นายมารุต ระบุ....
.
.
.
.
.
.
.
