วันที่ 12 พ.ย.61 เวลา 20.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายธนัยนันท์ เชื้อถิระพงษ์ อายุ 31 ปี ชาวตรอกบางอุทิศ แขวงวัดพระยาไกร เขตบางคอแหลม กรุงเทพฯ ผู้ที่มีอาการนอนสลบหมดสติภายในรถยนต์เก๋งบนทางด่วนยกระดับบูรพาวิถี กม.39+800 พร้อมด้วย น.ส.จิตรารัตน์ นามจำปี อายุ 26 ปี ชาว ต.หัวหว้า อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี แฟนสาว และ ด.ญ.อารีย์ภัทร เชื้อถิระพงษ์ อายุ 7 ปี บุตรสาว
ได้เดินทางมาเข้าพบ ร.ต.อ.สุริยา ภูมิวัฒน์ พนักงานสอบสวน สภ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทราแล้ว เมื่อเวลา 17.55 น.ของวันนี้ หลังจากเมื่อเวลา 15.00 น.ทางแพทย์โรงพยาบาลทหารเรือ รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ได้อนุญาตให้ นายธนัยนันท์ พร้อมด้วยบุตรสาวออกมาจากโรงพยาบาลเพื่อกลับบ้านได้แล้ว ส่วน น.ส.จิตรารัตน์ แฟนสาวนั้น ยังคงให้นอนพักดูอาการอยู่ที่ รพ.ทหารเรือ ต่ออีก 1 คืน
โดยระหว่างที่เข้ามาพบพนักงานสอบสวน นายธนัยนันท์ ไม่ได้นำบุตรสาวลงมาจากรถด้วย โดยมีเพียงอดีตภรรยา ซึ่งเป็นมารดาที่แท้จริงของเด็กหญิงวัย 7 ขวบ นั้นเข้ามาพบและให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวนเพียง 2 คนเท่านั้น โดยใช้เวลาสอบปากคำประมาณ 30 นาทีเศษ ทั้งสองคนจึงได้รับเดินทางกลับไปในทันที และไม่ยอมพูดคุยหรือให้สัมภาษณ์ใดๆ ต่อทางสื่อมวลชนที่มารอทำข่าว
หลังผู้สื่อข่าวสอบถาม ร.ต.อ.สุริยา พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ทราบว่า ในวันนี้ทางผู้ประสบเหตุหมดสติในรถได้เข้ามาให้ปากคำเกี่ยวกับเรื่องของการใช้รถ จนทราบจากอดีตภรรยาของ นายธนัยนันท์ ซึ่งเป็นผู้ใช้รถคันเกิดเหตุอยู่เป็นประจำว่า อาการมีกลิ่นเหม็นไหม้ลักษณะนี้ได้เคยเกิดขึ้นมานานหลายปีแล้วตั้งแต่ทั้งสองคนยังไม่ได้เลิกรากันเมื่อกว่า 2 ปีที่ผ่านมา
แต่ที่ผ่านมานั้น ยังไม่เคยใช้รถขับออกไปไหนในระยะทางไกลๆ มาก่อน โดยใช้งานรถคันนี้เพียงแค่ภายในกรุงเทพฯเท่านั้น และจากผลการตรวจเลือดของทีมแพทย์ผู้ทำการรักษาอาการนั้น ยังพบว่าทั้งสามคนที่หมดสติภายในรถมีก๊าซคาร์บอนมอนน็อกไซด์อยู่ในกระแสเลือด จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ทุกคนมีอาการสะลึมสะลืออ่อนเพลียมึนงงก่อนที่จะช็อกหมดสติไป
ซึ่งจะได้เร่งรัดประสานให้ทางเจ้าหน้าที่วิศวกรรมยานยนต์ จากกรมการขนส่งทางบกช่วยมาทำการตรวจสอบรถยนต์คันนี้ให้อย่างรวดเร็วที่สุด เพราะถือเป็นเหตุเร่งด่วนเพื่อให้เกิดความชัดเจนต่อเรื่องดังกล่าวที่เกิดขึ้นต่อไป ร.ต.อ.สุริยา กล่าว