svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

ยกเลิกไขมันทรานส์...ใครรับกรรม

13 ก.ค. ที่ผ่านมา ราชกิจจานุเบกษาออกประกาศกระทรวงสาธารณสุข ห้ามผลิต นำเข้า และจำหน่าย ไขมันทรานส์ ซึ่งเป็นน้ำมันที่ผ่านกระบวนการเติมไฮโดรเจนบางส่วน ส่งผลเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด โดยให้มีผลบังคับใช้ในอีก 180 วัน หลังจากมีงานวิจัยในวงการวิทยาศาสตร์ทั้งไทยและต่างประเทศว่าไขมันชนิดนี้ ก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมา ทั้งโรคไขมันหลอดเลือด และโรคหัวใจ คำถามคือผู้บริโภคอย่างเรา จะมีวิธีสังเกต เพื่อป้องกันตัวเองอย่างไร

เราไม่มีทางรู้เลยว่า อาหาร และขนม ที่เราบริโภคอยู่ในแต่ละวัน มีส่วนผสมของไขมันทรานส์หรือไม่ ปริมาณเท่าไร เนื่องจากกฎหมายยังไม่ควบคุมให้ผู้ประกอบการต้องระบุปริมาณไขมันทรานส์บนฉลากอาหารเหมือนในต่างประเทศ


ยิ่งไปกว่านั้น การตรวจสอบไขมันทรานส์ ในอาหารและขนมที่ไม่มีฉลาก ทำได้ยากกว่า ทางเดียวที่จะทดสอบได้ คือต้องนำเข้าห้องแล็ปเท่านั้น ซึ่งต้องผ่านกระบวนการที่ซับซ้อน


'สารี อ๋องสมหวัง' เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค อธิบายที่มาของ 'ไขมันทรานส์' ว่า เป็นไขมันไม่อิ่มตัวจากพืช ไม่ทนความร้อน และถูกนำมาผ่านกระบวนการเติมไฮโดนเจน ทำให้แข็งตัว


ไขมันทรานส์เกือบทั้งหมด มาจากการสังเคราะห์ขึ้น พบมากในเนยเทียม เนยขาว และครีมเทียม ซึ่งหากนึกถึงอาหารที่มีส่วนประกอบเหล่านี้ นับว่ามากเลยทีเดียว แต่ก็มีไขมันทรานส์ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ หรือเกิดขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจ เช่น การใช้น้ำมันพืชเก่า ที่ผ่านการทอดซ้ำๆ