การจะละความชั่ว ไม่กระทำผิด...มันยาก
"การทำบุญ" โจรมันก็ทำได้ มันเป็น..."ปลายเหตุ"
"การไม่กระทำบาป" ทั้งหลายทั้งปวงนั้นนะ เป็น..."ต้นเหตุ"ขอบพระคุณคำสอน : หลวงปู่ชา สุภัทโท
อนึ่ง...หลวงปู่ชา สุภุทโท หรือหลวงพ่อชา พระวิปัสสนาจารย์สายอีสาน มีนามเดิมว่า ชา ช่วงโชติ (เกิดเมื่อวันที่ ๑๗ มิถุนายน ๒๔๖๑ ณ บ้านจิกก่อ หมู่ ๙ ต.ธาตุ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี มรณภาพ เมื่อ ๑๙ มกราคม ๒๕๓๕)
ในวัยเด็กของหลวงปู่ชา ได้รับการศึกษาชั้นประถมศึกษา โรงเรียนบ้านก่อ ต.ธาตุ อ.วาริรชำราบ จ.อุบราชธานี เมื่อจบชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ จึงลาออกมาช่วยงานครับครัว เมื่ออายุ ๑๓ ปี บิดาได้นำไปฝากกับเจ้าอาวาสวัดมณีวนาราม เนื่องจากหลวงปู่ชานั้นจิตฝักใฝ่ธรรมตั้งแต่เด็ก
การที่ หลวงปู่ชา บวชแต่วัยเยาว์ จึงทำให้มีโอกาสเรียนทางโลกชั้นประถมปีที่ 1 และอยู่จำพรรษา ศึกษาพระปริยัติธรรม จนอยู่ปฎิบัติครูอาจารย์เป็นเวลา ๓ ปี กระทั่งอายุ ๒๐ ปีบริบูรณ์ เข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวันที่ ๒๖ เมษายน ๒๔๘๒ ณ พัทธสีมาวัดก่อใน ต.ธาตุ อ.วาริรชำราบ จ.อุบราชธานี
หลังจากอุปสมบทแล้วท่านได้อุทิศตนศึกษาพระธรรมวินัยอย่างจริงจัง จึงจาริกออกปฎิบัติธรรมตามป่าเขา แล้วได้กลับมาก่อตั้งวัดหนองป่าพง เมื่อปี ๒๔๙๗ เป็นวัดป่าฝ่ายอรัญวาสี ณ บ้านเกิด โดยหลวงปู่ชาเป็นเจ้าอาวาส
หลวงปู่ชา สุภทฺโท ขณะมีชีวิตอยู่ท่านได้อุทิศชีวิตเพื่อการปฏิบัติธรรมและเผยแผ่พุทธศาสนา ทั้งแก่ชาวไทยและชาวต่างประเทศ ซึ่งบังเกิดผลทำให้ผลงานที่เป็นประโยชน์อเนกอนันต์แก่พระศาสนา ทั้งที่เป็นพระธรรมเทศนา และสำนักปฏิบัติธรรมในนามวัดสาขาวัดหนองป่าพงมากมาย และแม้ท่าน จะมรณภาพไปนานแล้ว แต่ศิษยานุศิษย์ของท่านก็ยังคงรักษาแนวทางปฏิบัติธรรมที่ท่านได้สั่งสอนไว้จนถึงปัจจุบัน