อันที่จริงกรณีชวน หลีกภััยส่งจดหมายเปิดผนึกถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไม่ใช่เรื่องใหม่
เพียงแต่เพจDemocrat Party, Thailand มาทำซ้ำอีกหน เลยเป็นที่มาของข่าวใหญ่ในสื่อออนไลน์ตั้งแต่บ่ายวันเสาร์ และต่อด้วยเช้าวันอาทิตย์บนหน้า 1 นสพ.รายวัน
แอดมินเพจพรรค ปชป.จับเอาประเด็น "ชวน" ส่งหมายถึงนายกฯประยุทธ์ มาเล่นซ้ำ หลังจาก "ลุงตู่" กลับจากไปเยี่ยมชาวตรังที่ประสบภัยน้ำท่วม และครั้งนี้ นายกฯประยุทธ์ ไม่เกิดอาการน็อตหลุดอะไร ทำให้ข่าวดูเงียบๆ
ต่างจากครั้งแรกที่ประเด็น"รายได้คนใต้ลดลง"ถูกเปิดโดยอดีต ส.ส.ตรัง เมื่อวันที่ 24 พ.ย.2560 ครั้งนั้นสื่อส่วนใหญ่ไม่ให้ความสนใจมากนักอาจเป็นเพราะช่วงนั้น ถูกกลบด้วยข่าวนายกฯ ลงไปสงขลา และปัตตานี เกิดมีรายการดราม่ามากมาย
ย้อนดูเส้นทางข่าว "ชวนกรีด" สักนิดเรื่องของเรื่องสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุลอดีต ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ได้รับมอบหมายจากชวน หลีกภัยให้ไปยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีผ่าน วิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 22 พ.ย.2560 ว่าด้วยเรื่องรายได้ต่อครัวเรือนประชาชนในภาคใต้ลดลง
อีกสองวันถัดมา "สมบูรณ์" อดีต ส.ส.ตรัง ก็โพสต์เรื่องนี้ ทางเฟซบุ๊คส่วนตัวว่าด้วยเรื่อง "รายได้ต่อครัวเรือนประชาชนในภาคใต้ลดลง" แต่ไม่มีสื่อสำนักไหนให้ความสนใจ ทั้งที่เขียนเป็นรายงานข่าว พร้อมภาพประกอบตอนที่ยื่นจดหมายนายหัวชวนต่อรองนายกฯ วิษณุ เครืองาม
อันที่จริง "นายหัวชวน" เปิดประเด็นรายได้คนใต้ลดลงเวลานั้น มันเกี่ยวกับคำพูดของ "สมคิด จาตุศรีพิทักษ์" รองนายกรัฐมนตรี ที่ประกาศว่า ปีหน้าคนจนจะหมดไปจากประเทศไทย
จริงๆ แล้ว "สมคิด" พยายามจะบอกว่า ปี 2561 รัฐบาลประยุทธ์ จะลงมือแก้ปัญหาเศรษฐกิจฐานรากอย่างเป็นระบบ และคาดหมายว่า นโยบายประชานิยมแบบใหม่จะถูกนำมาใช้
"ชวน" จึงต้องชิงเล่นข้อมูลรายได้ประชากรใน 3 จังหวัดภาคใต้เป็น "หนังตัวอย่าง" ว่า รายได้ลดลงในรอบ 3 ปีนี้ และสะท้อนถึงความล้มเหลวของการแก้ปัญหาปากท้องชาวบ้านของรัฐบาล คสช.
แน่นอน ลีลาของชวน หลีกภัย ไม่ใช่การนั่งโต๊ะแถลงข่าว ใช้ลีลาโวหารเหน็บ คสช.เหมือนวัชระ เพชรทอง หรือมัลลิกา บุญมีตระกูล หากแต่นายหัวชวนใช้ข้อมูลทางราชการ และชี้ให้เห็นว่า รายได้ประชาชนลดลงอย่างมีนัยยะ
ถือว่า ทีม ปชป.ทำงานประสบผลสำเร็จ เพราะมีเสียงตอบรับจากสื่อมากเกินคาด
สงครามข่าวสารรอบนี้ ปชป.ได้แต้ม จี้ถูกจุดเรื่องรายได้คนใต้ลด เขย่าทีมสมคิดให้ตื่นจากฝันได้พอควรแหละ